สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ว่า เซเลนสกีกล่าวว่า ยูเครนกำลังเจรจากับเดนมาร์ก นอร์เวย์ เยอรมนี แคนาดา สหราชอาณาจักร และลิทัวเนีย เพิ่มเริ่มดำเนินการผลิตอาวุธร่วมกัน

“ยูเครนเป็นส่วนหนึ่งในความมั่นคงของของยุโรป และเราต้องการให้ประเทศพันธมิตรจัดสรรงบประมาณ 0.25% ของจีดีพี สำหรับอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และการผลิตภายในประเทศ” เซเลนสกี กล่าวเพิ่มเติม

เนื่องจากการทำสงครามรัสเซีย ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าและมีอาวุธที่ดีกว่า ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ความต้องการอาวุธและกระสุนใหม่ของยูเครน จึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเซเลนสกีกล่าวว่า ในปีนี้ รัฐบาลเคียฟได้รับเงิน 43,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.4 ล้านล้านบาท) เพื่อการผลิตอาวุธภายในประเทศ

ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) คาดว่าจะประชุมกันที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศที่สูงขึ้น ซึ่งนายมาร์ค รึตเตอ เลขาธิการนาโต เสนอแนะว่า ประเทศต่าง ๆ ควรตกลงที่จะใช้งบประมาณ 5% ของจีดีพี สำหรับมาตรการด้านกลาโหมและความมั่นคง

ด้านเซเลนสกีกล่าวว่า เขามีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของนาโต พร้อมกับเสริมว่า ยูเครนเตรียมจัดการประชุมหลายครั้งกับบรรดาผู้นำชาติตะวันตก นอกรอบการประชุมใหญ่ และเขาหวังว่าจะได้พบปะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐด้วย

ปัจจุบัน ยูเครนครอบคลุมความต้องการด้านกลาโหมประมาณ 40% ด้วยการผลิตภายในประเทศ อีกทั้งรัฐบาลเคียฟกำลังหาวิธีเพิ่มการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนที่จะเริ่มการผลิตอาวุธร่วมกันนอกประเทศ และจะเริ่มส่งออกเทคโนโลยีการผลิตทางทหารบางส่วน.

เครดิตภาพ : AFP