สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ว่า คณะกรรมการอาหารและยาของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์ เมื่อวันพุธ ขึ้นทะเบียนเป็นกรณีฉุกเฉิน ให้กับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีโปรตีนซับยูนิต ของบริษัทโนวาแวกซ์จากสหรัฐ โดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ( เอสไอไอ ) ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก จะเป็นผู้ผลิตวัคซีนให้กับโนวาแวกซ์ และจำหน่ายโดยใช้ชื่อทางการค้า “โควาแวกซ์”


ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์นับเป็นประเทศที่ 2 ของโลก ซึ่งให้การรับรองเพื่อใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉิน กับวัคซีนโควิด-19 ของโนวาแวกซ์ ต่อจากอินโดนีเซีย ที่ขึ้นทะเบียนแล้วเมื่อต้นเดือนนี้


สำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่โนวาแวกซ์พัฒนานั้น “ให้ประสิทธิผลในภาพรวม 90.4%” โดยสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ “หลายสายพันธุ์” ตามการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญจากผลการทดสอบทางคลินิกระยะที่สาม เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา


ขณะที่ลดอัตราการติดเชื้อให้กับกลุ่มเสี่ยง พบว่าวัคซีนของโนวาแวกซ์สามารถป้องกันได้ 91% และเพิ่มประสิทธิภาพเป็น 100% ในการป้องกันอาการป่วยปานกลางและรุนแรง แต่ลดลงเหลือ “ประมาณ 70%” ต่อเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่โนวาแวกซ์ “ยังระบุไม่ได้”.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES