เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษ 2 นายแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการรักษาตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเองได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ทั้งนี้ยืนยันว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่ได้รับรายละเอียดมติลงโทษใดๆ จากแพทยสภา อย่างเป็นทางการ ซึ่งต้องทำความเข้าใจว่ากรณีนี้บุคคลที่เกี่ยวข้องมี 2 บทบาท คือเป็นหมอและเป็นตำรวจในเวลาเดียวกัน ในส่วนบทบาทของหมอผู้รักษาคนไข้ได้มีการสั่งให้หยุดปฏิบัติแล้ว แต่บทบาทการเป็นตำรวจคณะกรรมการชุดที่ตรวจสอบต้องใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และระเบียบที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการไปตามขั้นตอน

ส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นกับ 2 นายแพทย์จะมีการทำผิดวินัยตำรวจข้อใดบ้าง ผบ.ตร. กล่าวว่า จากนี้จะมีการพิจารณาอย่างละเอียด รอบคอบ ยืนยันว่าตำรวจเองก็ต้องนำเรื่องจริยธรรมตำรวจมาพิจารณาร่วมด้วย ส่วนที่พบว่ามีความผิดทางวิชาชีพแพทย์ จะตรงกับการผิดจริยธรรมในส่วนของการรับข้าราชการตำรวจด้วยหรือไม่ ก็จะต้องตรวจสอบต่อไป

“ผมจะทำอะไรลูกน้องก็ต้องมีความเป็นธรรม เป็นกลางก็ต้องว่าไปตามกฎหมายและคำสั่ง” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว

ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า การถูกระงับใบวิชาชีพทางการแพทย์เป็นคนละเรื่องการทำหน้าที่แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ส่วนจะมีความสง่างามหรือไม่ การเป็นแพทย์ใหญ่คือเป็นตามหน้าที่ของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจากนี้ต้องพิจารณาเรื่องวินัยตำรวจ แต่การถูกระงับวิชาชีพทางการแพทย์คือการผิดในเรื่องการให้บริการการรักษา

สำหรับรายชื่อ 2 นายแพทย์ซึ่ง 1 ในนั้นคือ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ มีลำดับอาวุโสที่จะขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร. จะมีผลในการพิจารณาแต่งตั้งวาระเดือนตุลาคมนี้หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ต้องมีการพิจารณาหลักเกณฑ์ เงื่อนไขการเข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณา.