คนเรามีอุปนิสัยใจคอแตกต่างหลากหลายกันไป และในจำนวนนี้มีบางคนที่มีลักษณะนิสัยชื่นชอบการได้รับคำชม มั่นใจในตัวเองสูงมากเกินไป จนเมินเฉยไม่นึกถึงจิตใจของผู้อื่น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวอาจเข้าข่ายโรคทางจิตเวชที่เรียกว่า “โรคหลงตัวเอง”
สาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพจิตจาก “โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต” บอกเล่าถึงโรคหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder: NPD) ว่า เป็นภาวะหนึ่งในกลุ่มโรคบุคลิกภาพที่มีลักษณะเฉพาะตัวชัดเจน โดยบุคคลที่มีภาวะนี้มักแสดงออกถึงความยึดมั่นในตนเองอย่างรุนแรง ขาดความเห็นใจผู้อื่น และต้องการการยอมรับหรือชื่นชมจากภายนอกตลอดเวลา แม้จะดูเหมือนมีความมั่นใจสูง แต่ลึกๆ แล้วกลับซ่อนความเปราะบางทางอารมณ์ไว้ภายใน
ลักษณะอาการของโรคหลงตัวเอง
ผู้ที่มีภาวะหลงตัวเอง มักมีพฤติกรรมและรูปแบบความคิดดังต่อไปนี้
-เชื่อว่าตัวเองพิเศษ เหนือกว่าผู้อื่น และสมควรได้รับสิทธิพิเศษ
-ต้องการคำชมอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถทนได้หากไม่ได้รับการยอมรับ
-ขาดความสามารถในการเข้าใจหรือเห็นอกเห็นใจความรู้สึกของผู้อื่น
-มักแสดงพฤติกรรมดูถูกหรือไม่ให้คุณค่าผู้อื่น เพื่อเสริมสร้างคุณค่าของตน
-มีความอ่อนไหวต่อคำวิจารณ์ แม้เพียงเล็กน้อย
-มีความสัมพันธ์ที่ตื้นเขิน และมักมีปัญหาในการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาว

สิ่งสำคัญคือ อาการเหล่านี้ต้องเป็นลักษณะถาวรต่อเนื่องตั้งแต่วัยหนุ่มสาว และส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันจึงจะวินิจฉัยว่าเป็นโรค
สาเหตุของโรคหลงตัวเอง
ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนถึงสาเหตุเดียวของโรคหลงตัวเอง แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่สัมพันธ์กัน เช่น
–ปัจจัยทางพันธุกรรม : บุคคลที่มีประวัติครอบครัวที่เป็นโรคบุคลิกภาพอาจมีความเสี่ยงสูงขึ้น
–การเลี้ยงดูในวัยเด็ก : การที่เด็กได้รับการยกย่องมากเกินไปหรือถูกวิจารณ์อย่างรุนแรงอาจทำให้พัฒนาการทางอารมณ์บิดเบี้ยว
–สภาพแวดล้อมทางสังคม : วัฒนธรรมที่เน้นความสำเร็จส่วนบุคคล การแข่งขัน และสถานะอาจเป็นแรงเสริมให้เกิดพฤติกรรมแบบหลงตัวเอง
ประเภทของโรคหลงตัวเอง
แม้ในระบบวินิจฉัย DSM-5 จะไม่แบ่ง NPD เป็นชนิดย่อยอย่างเป็นทางการ แต่นักจิตวิทยาบางกลุ่มเสนอว่าโรคหลงตัวเองอาจจำแนกได้เป็น 2 รูปแบบหลัก
1.Grandiose Narcissism – บุคลิกภาพแบบยิ่งใหญ่โอ่อ่า แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าตนเองเหนือกว่า มีความมั่นใจสูง มักเป็นผู้นำหรือแสดงตนโดดเด่
2.Vulnerable Narcissism – บุคลิกภาพแบบอ่อนไหวและเปราะบาง แสดงออกน้อย แต่อยู่ในภาวะรู้สึกไม่ปลอดภัย ต้องการการยอมรับภายนอกอยู่เสมอ แม้จะปกปิดไว้ภายนอก

วิธีรับมือของคนรอบข้าง
การอยู่ร่วมกับผู้ที่มีภาวะหลงตัวเอง อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย ดังนั้น คนรอบข้างควรมีวิธีการรับมืออย่างเหมาะสม
1.ตั้งขอบเขตที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการถูกควบคุมหรือทำร้ายทางจิตใจ
2.ไม่ตอบสนองด้วยอารมณ์ เพราะการโต้เถียงมักทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง
3.ให้ความสำคัญกับตนเอง โดยไม่ปล่อยให้ความต้องการของผู้ป่วยกลืนความรู้สึกของตัวเอง
4.หลีกเลี่ยงการตำหนิ แต่ใช้การสื่อสารเชิงสร้างสรรค์เพื่อให้เขาตระหนักถึงพฤติกรรม
5.ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เมื่อตัวเองเริ่มรู้สึกหมดพลังหรือถูกกระทบทางอารมณ์
แนวทางการรักษาโรคหลงตัวเอง
เนื่องจากผู้ป่วยโรคหลงตัวเองมักไม่ยอมรับว่าตนมีปัญหา การรักษาจึงมักเริ่มจากผลกระทบต่อความสัมพันธ์หรือหน้าที่การงาน
@ จิตบำบัดรายบุคคล (Psychotherapy) : โดยเฉพาะแนวทางจิตบำบัดเชิงลึก (Psychodynamic therapy) หรือ Cognitive Behavioral Therapy (CBT) ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจตนเองมากขึ้น พัฒนาความเห็นใจผู้อื่น และปรับพฤติกรรม
@ การรักษาทางยา : แม้ยังไม่มียาที่รักษาโรคหลงตัวเองโดยตรง แต่ยาต้านซึมเศร้า วิตกกังวล หรือ mood stabilizers อาจใช้ในกรณีที่มีอาการร่วมอื่นๆ
@ การบำบัดแบบกลุ่ม : ช่วยให้ผู้ป่วยฝึกการเข้าสังคมและเห็นความจริงจากมุมมองของผู้อื่น
โรคหลงตัวเองไม่ใช่แค่เรื่องของนิสัย แต่เป็นความผิดปกติทางบุคลิกภาพที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทั้งผู้ป่วยและคนรอบข้าง การเข้าใจลักษณะอาการ สาเหตุ กลไกทางจิตใจ และแนวทางการรับมือที่เหมาะสม จะช่วยให้สามารถอยู่ร่วมกับบุคคลกลุ่มนี้ได้อย่างมีสุขภาวะ พร้อมทั้งสนับสนุนให้พวกเขาได้รับการรักษาที่เหมาะสม เพื่อฟื้นฟูคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์ที่ดีในสังคมต่อไป