เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. นายประสิทธิชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์ข้อความระบุถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมนำกัญชากลับเข้าเป็นยาเสพติด ว่า ทำไมนายสมศักดิ์ เทพสุทิน (รมว.สาธารณสุข) จึงปฏิเสธการจัดทำกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมกัญชา เหตุผลที่สมศักดิ์ เทพสุทิน พยายามโฆษณาคือต้องเอากัญชากลับไปสู่ยาเสพติด เพราะคิดว่าเอากัญชาไปขังแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย ในความเป็นจริงยิ่งนำกลับสู่ยาเสพติดยิ่งล่อใจเยาวชน
ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเยาวชนเสพกัญชาเพิ่มขึ้น10 เท่าเป็นข้อมูลปลอม ผมท้าหน่วยงานรัฐทุกหน่วยให้ฟ้องผมแล้วพิสูจน์กันในศาลว่าตัวเลขที่พูดถึงนั้นมันปลอม ที่บอกว่าปลอมเพราะว่าที่มาของการเก็บข้อมูลมันเพี้ยนและเต็มไปด้วยอคติ เช่น เคยลองใช้กัญชาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีที่แล้วหลังจากนั้นไม่ได้ใช้อีก ข้อมูลเช่นนี้ก็เอามานับ หากแน่จริงมาพิสูจน์กันว่าข้อมูลที่เอามาโฆษณาใส่ร้ายกัญชามันปลอม
นายสมศักดิ์ ทำให้เห็นว่า กัญชาถูกกำหนดสถานะโดยการเมืองมิได้กำหนดจากข้อเท็จจริง พ.ร.บ.ของกระทรวงสาธารณสุขทำเสร็จตั้งแต่สมัยหมอชลน่าน (นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว) เป็นรัฐมนตรี พอนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้ามาเป็นรัฐมนตรีกลับผลัก พ.ร.บ.กัญชาออกไปจากขั้นตอนการดำเนินการ และประกาศจะนำกลับไปสู่ยาเสพติดแล้วออกกติกาให้กลุ่มทุนใหญ่เท่านั้นที่จะทำกัญชาได้ นี่คือธงของนายสมศักดิ์ เพราะคนในพรรคเพื่อไทยเป็นนายทุนกัญชากันหลายคน รวมถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทินด้วย ใช่หรือไม่
ทุกท่านต้องไม่ลืมว่ากัญชามีมูลค่าหลายหมื่นล้านต่อปี เมื่อมีมูลค่าเช่นนี้ใครก็อยากผูกขาดกัญชา วิธีการผูกขาดที่ดีที่สุดคือผูกขาดโดยกฎหมาย สมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวอ้างว่า เวลาไม่พอในการทำ พ.ร.บ. คำถามคือ มัวแต่ช่วยนักโทษชั้น 14 จนลืมไปว่า พรรคเพื่อไทยควบคุมกระทรวงสาธารณสุขมาตั้งแต่ต้น จนบัดนี้ยังไม่ดำเนินการ ผ่านมา 2 ปีกว่าบอกว่าไม่มีเวลาทำ พ.ร.บ.กัญชา ที่ไม่มีเวลาก็เพราะเอาเวลาไปช่วยนักโทษชั้น 14 ใช่หรือไม่ ถึงเวลารับวิบากกรรมแล้ว สมศักดิ์ เทพสุทิน
ผมเชื่อว่าสมศักดิ์ เคลื่อนไหวเรื่องกัญชาในจังหวะนี้เพราะอยากแก้แค้นภูมิใจไทย เป็นเหตุผลสำคัญ และเหตุผลรองลงมาคือ ต้องผูกขาดกัญชามูลค่าหมื่นล้านให้อยู่เพียงกลุ่มตน เมื่อไหร่นักการเมืองประเทศนี้จะใช้ข้อเท็จจริงกำหนดนโยบายเสียที.