สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวานนี้ (23 มิ.ย. 2568) ถึงกรณีนักท่องเที่ยวที่สร้างความเสียหายแก่ภาพวาดเก่าแก่ที่ประเมินค่ามิได้ของพิพิธภัณฑ์ในอิตาลี
ภาพจากกล้องวงจรปิดของหอศิลป์อุฟฟิซิในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย. 2568 แสดงให้เห็นนักท่องเที่ยวชายนิรนามกำลังโพสท่าถ่ายรูปหน้าผลงานภาพเหมือนของเจ้าชายเฟร์ดินันโด เด เมดิชิ แห่งทัสคานี โดยศิลปินอันโตน โดเมนิโก กาบเบียนี ซึ่งวาดขึ้นในปี ค.ศ. 1712
ขณะที่ นักท่องเที่ยวรายนี้พยายามโพสท่าเลียนแบบบุคคลในภาพวาด เขาก็เสียหลักและล้มลงไปทางด้านหลังจนโดนผืนผ้าใบจนเกิดรอยฉีกขาดที่บริเวณด้านล่างของภาพ จากนั้นเขาก็รีบถอยออกจากภาพและทำท่าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วมาก นักท่องเที่ยวที่ซุ่มซ่ามรายนี้สะดุดขอบกั้นที่ติดกับพื้นซึ่งติดตั้งไว้เพื่อเป็นจุดบอกระยะเว้นห่างที่ปลอดภัยในการชมภาพ
ปกติแล้ว ภาพวาดของเจ้าชายแห่งทัสคานีนี้จะเก็บไว้ที่ปาลาซโซ พิตติ ซึ่งเป็นหอศิลป์ที่แยกออกไปต่างหาก แต่ถูกนำมาจัดแสดงในอุฟฟิซิเป็นการชั่วคราวเพื่อร่วมงานนิทรรศการศิลปะจากยุคศตวรรษที่ 18 จากเมืองฟลอเรนซ์และยุโรป
เจ้าหน้าที่ของหอศิลป์อุฟฟิซิแจ้งต่อสื่อฯอิตาลีว่า นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวโดนเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์เข้าควบคุมตัวหลังจากนั้นไม่นาน ทางพิพิธภัณฑ์ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเป็นทางการแล้ว และตั้งข้อหาทำลายมรดกทางวัฒนธรรมแก่นักท่องเที่ยวหนุ่ม
Un gran danno. Ed oggi c'era anche il ministro perché dopo 20 anni toglievano la gru davanti agli Uffizi. Un gran bel giorno da ricordare ????????♂️ pic.twitter.com/C2IPzJYR93
— Maze32 (@Maze_32) June 21, 2025
ส่วนภาพวาดอายุ 300 ปีเศษของกาบเบียนี ถูกนำออกจากนิทรรศการเพื่อส่งไปซ่อมแซม
เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดการตื่นตัวในการใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมนักท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่หอศิลป์ชื่อดังระดับโลกแห่งนี้
“เราจะกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนมาก เพื่อป้องกันพฤติกรรมที่ขัดต่อความรู้สึกของสถาบันของเราและการเคารพมรดกทางวัฒนธรรม” ซิโมเน แวร์เด ผู้อำนวยการอุฟฟิซิกล่าวในแถลงการณ์หลังเกิดเหตุ
“ปัญหาที่เกิดจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาพิพิธภัณฑ์เพื่อถ่ายภาพมีม หรือภาพเซลฟี่ลงโซเชียลมีเดียกำลังแพร่กระจายอย่างหนัก” เขากล่าวเสริม
เหตุการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเป็นกรณีล่าสุดจากเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวทำลายงานศิลปะล้ำค่าในอิตาลี ทำให้ชาวอิตาลีจำนวนมากกล่าวตำหนิว่า นักท่องเที่ยวไม่เคารพมรดกทางวัฒนธรรมของพวกเขา
ที่มา : wantedinrome.com, nypost.com
เครดิตภาพ : X / Maze_32