สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางคุกคามแหล่งผลิตน้ำมันดิบ และการจ้างงานของชาวฟิลิปปินส์ในภูมิภาคดังกล่าวหลายล้านคน ซึ่งเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน การส่งออกของประเทศไปยังคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งอย่างสหรัฐอเมริกา ได้ถูกตั้งกำแพงภาษีนำเข้า 17% จากมาตรการภาษีของผู้นำสหรัฐ
The Philippine government has cut its economic growth target for this year as the conflict in the Middle East added to risks from the impact of the Trump administration’s global trade war https://t.co/e4KF2AeUro
— Bloomberg (@business) June 26, 2025
แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่า ในขณะนี้คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 5.5-6.5% ซึ่งลดลงจาก 6.0-8.0% โดยสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในภาคเอกชน และสถาบันการเงินระหว่างประเทศ โดยคำนึงถึงความไม่แน่นอนในระดับโลก
การส่งออกสินค้าของประเทศคาดว่าจะหดตัว 2.0% ในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัวลง และความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่จะฟื้นตัวเล็กน้อยที่ 2.0% ในอีก 3 ปีข้างหน้า
รายงานเสริมว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.0-7.0% ในปี 2569-2571.
เครดิตภาพ : AFP