สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางคุกคามแหล่งผลิตน้ำมันดิบ และการจ้างงานของชาวฟิลิปปินส์ในภูมิภาคดังกล่าวหลายล้านคน ซึ่งเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน การส่งออกของประเทศไปยังคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งอย่างสหรัฐอเมริกา ได้ถูกตั้งกำแพงภาษีนำเข้า 17% จากมาตรการภาษีของผู้นำสหรัฐ

แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่า ในขณะนี้คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 5.5-6.5% ซึ่งลดลงจาก 6.0-8.0% โดยสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในภาคเอกชน และสถาบันการเงินระหว่างประเทศ โดยคำนึงถึงความไม่แน่นอนในระดับโลก

การส่งออกสินค้าของประเทศคาดว่าจะหดตัว 2.0% ในปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัวลง และความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าที่เพิ่มขึ้น ก่อนที่จะฟื้นตัวเล็กน้อยที่ 2.0% ในอีก 3 ปีข้างหน้า

รายงานเสริมว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6.0-7.0% ในปี 2569-2571.

เครดิตภาพ : AFP