นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงข่ายถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ณ แขวงทางหลวงชนบทเพชรบุรี โดยโครงการนี้ ทช. ได้ดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตกของอ่าวไทยอย่างยั่งยืน เพื่อพัฒนาโครงข่ายถนนดังกล่าวให้มีความต่อเนื่อง ส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน/นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง ตลอดจนการแก้ไขปัญหาจราจรและเหมาะสม เป็นถนนท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลระดับสากล โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปีงบประมาณ 2552

Thailand Riviera เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอ่าวไทย มีพื้นที่ดำเนินการตั้งแต่ สมุทรปราการ-สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ระนอง-ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช-สงขลา-ปัตตานี-นราธิวาส แบ่งเป็น 4 ระยะ รวมระยะทาง 950 กิโลเมตร ดังนี้ ระยะที่ 1 : ช่วง สมุทรสาคร-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 515 กิโลเมตร (กม.) ปัจจุบัน ทช. ได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ใช้งบประมาณ 2,549 ล้านบาท, ระยะที่ 2 : ช่วง ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช-สงขลา ระยะทาง 150 กม. อยู่ระหว่างเตรียมการสำรวจออกแบบ และจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าการก่อสร้างจะทยอยเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2570
ระยะที่ 3 ช่วง สมุทรปราการ-สมุทรสาคร-สมุทรสงคราม ระยะทาง 85 กม. โดยได้สำรวจออกแบบแล้วเสร็จ ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 4,275 ล้านบาท แบ่งสัญญาออกเป็น 4 ช่วง คือ สัญญาที่ 1 ช่วงจังหวัดสมุทรปราการ-จังหวัดสมุทรสาคร ด้านตะวันออกของแม่น้ำท่าจีน เป็นการปรับปรุงถนนที่มีอยู่เดิมตามแนวคลอง คลองสรรพสามิต คลองสหกรณ์ คลองพิทยาลงกรณ์ โดยการปรับปรุงผิวจราจร พร้อมทั้งเพิ่มเติมป้ายจราจร และอุปกรณ์อำนวยการจราจรให้มีความสมบูรณ์และปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยมีรูปแบบให้เป็นเอกลักษณ์ของเส้นทางท่องเที่ยว ใช้งบประมาณ 788.2 ล้านบาท
สัญญาที่ 2 ช่วงข้ามแม่น้ำท่าจีน เป็นการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนใหม่ เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเดินทางต่อเนื่องและบรรเทาปัญหาการจราจรในพื้นที่เป็นการก่อสร้างสะพาน พร้อมทางต่างระดับ ใช้งบประมาณ 2,342 ล้านบาท, สัญญาที่ 3 ช่วงจังหวัดสมุทรสาครด้านตะวันตกของแม่น้ำท่าจีนถึงจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นการปรับปรุงถนนเดิมระยะทาง 4.4 กม. และมีการก่อสร้างถนนใหม่ระยะทางประมาณ 12.3 กม. ขนานไปกับถนนพระราม 2 ใช้งบประมาณ 829.5 ล้านบาท และสัญญาที่ 4 ปรับปรุงถนนเดิมระยะทางรวมประมาณ 14.5 กม. เชื่อมจากส่วนปลายของสัญญาที่ 3 บริเวณบ้านชายทะเลรางจันทร์ จังหวัดสมุทรสาคร ไปสู่ส่วนที่เป็นดอนหอยหลอด จังหวัดสมุทรสงคราม ผ่านถนนพระรามสองไปเชื่อมต่อกับถนนริเวียร่าเดิมที่บ้านคลองโคน จังหวัดสมุทรสงคราม

ทั้งนี้ ทช. พิจารณาแล้วให้สัญญาช่วงที่ 3 มีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งงบประมาณ 829.5 ล้านบาท โดยมีค่าเวนคืนที่ดินและทรัพย์สิน ประมาณ 69.2 ล้านบาท ค่าก่อสร้างโครงการประมาณ 750.5 ล้านบาท ค่าสำรวจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 9.8 ล้านบาท ทช. จะตั้งงบประมาณส่วนนี้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 และระยะที่ 4 : ช่วง สงขลา-ปัตตานี-นราธิวาส ระยะทาง 200 กม. ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ จะแล้วเสร็จภายในปี 2569
นายมนตรี กล่าวอีกว่า ยังมีในส่วนของ Thailand Riviera เส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลอันดามัน โดยมีพื้นที่ดำเนินการเป็นฝั่งทะเลอันดามัน ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล ปัจจุบัน ทช. ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการร่วมกับสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นโครงการเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเล (ไทยแลนด์ ริเวียร่า) ฝั่งทะเลอันดามันอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของโครงการก่อสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) ด้านตะวันตก ถนนท่องเที่ยวตะนาวศรีคีรีพัฒน์ ช่วงเขาบันได-บ้านพุน้ำร้อน อำเภอหนองหญ้าปล้อง, เขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ระยะทางรวม 37.240 กม. ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 714.288 ล้านบาท คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2570