เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากนั้นเวลา 13.17 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ต่อมาเวลา 13.29 น. นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า และเวลา 13.30 น. น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ เดินทางเข้าตึกไทยคู่ฟ้า คาดว่าเดินทางมาให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร 

จากนั้นเวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดย น.ส.แพทองธาร แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ว่า จากผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ดิฉันน้อมรับคำพิจารณาของศาล และต่อจากนี้จะหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่แน่ใจระยะเวลา แต่มีเวลา 15 วัน ที่จะชี้แจง ซึ่งดิฉันเองก็จะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริง ว่าเรื่องของคลิปเสียงที่หลุดออกมา ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ดิฉันตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของเรา รักษาชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ดิฉันมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ดิฉันทำอาจจะถูกใจและไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่อย่างไรก็ตาม ดิฉันก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ว่า เป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มี ไม่ได้อยากได้อะไรเป็นของตัวเอง และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ เพราะดิฉันเองก็คงรับไม่ได้ ถ้าพูดอะไรกับผู้นำแล้วทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะ เกิดการโกรธเคือง ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะเข้าใจว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร นี่คือสิ่งที่ตั้งใจและจะใช้เวลาที่สามารถชี้แจงได้ ชี้แจงให้ได้อย่างครบถ้วน ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจ 

“ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีคนส่งกำลังใจมาให้อย่างไม่ขาดสาย ก็ต้องขอขอบคุณมากๆ และต้องขอโทษพี่น้องคนไทยทุกๆ คน ที่ไม่สบายใจกับเรื่องนี้ หรือรู้สึกโกรธเคือง ดิฉันเองขอยืนยันอีกครั้งว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ แต่ก็ต้องขอโทษในวิธีการที่ไม่ถูกใจใครหลายๆ คน หลังจากนี้ช่วงเวลาที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ดิฉันก็ยังทำเพื่อประเทศชาติได้ต่อไปในฐานะคนไทยคนหนึ่งแน่นอน และยังมีแรงกายแรงใจครบ 100 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทำงานต่อไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม และอยู่ในฐานะไหนก็ตาม ก็ยังเป็นคนไทยคนหนึ่งเหมือนเดิม และพร้อมทำเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่ทุกนาที ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกท่านอีกครั้ง” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดการแถลงข่าว มีสีหน้านิ่งแววตาเศร้า และพยายามฝืนยิ้ม ขณะที่มีช่วงหนึ่ง น.ส.แพทองธาร พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าที่มีความหนักแน่นเพื่อสื่อสารถึงประชาชน ทั้งนี้ ภายหลัง น.ส.แพทองธาร แถลงข่าวเสร็จสิ้น ได้หันหลังเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที โดยไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม ก่อนเดินทางออกจากทำเนียบ โดยมีนายภูมิธรรม น.ส.จิราพร และ นพ.พรหมินทร์ ยืนรอส่งหน้าตึกไทยคู่ฟ้า 

เมื่อผู้สื่อข่าวตะโกนเรียก น.ส.แพทองธาร ได้หันมายิ้มให้สื่อมวลชน ยกมือไหว้สวัสดีและโบกมือให้ ก่อนที่ขบวนรถยนต์แล่นผ่านสื่อมวลชน น.ส.แพทองธาร ได้ลดกระจกรถยนต์ลง โบกมือและยิ้มให้ผู้สื่อข่าวอีกครั้ง ก่อนออกจากทำเนียบ

น.ส.แพทองธาร หน้านิ่งแววตาเศร้าฝืนยิ้ม ก่อนโบกมือลาสื่อมวลชน ก่อนออกจากทำเนียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ส่งผลให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีแทน เนื่องจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯอันดับ 1 ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ เนื่องจากได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ และรมว.กลาโหม เพื่อรับตำแหน่งรองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ซึ่งจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อเมื่อเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ พร้อมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ในวันที่ 3 ก.ค. นี้.