จากกรณีที่ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม นักร้องและนักแสดงชื่อดัง เดินทางมาตามนัดในฐานะโจทก์ยื่นฟ้องนายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่ดีเจแมนให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า นายรัฐภูมิเรียกรับเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดีแชร์ Forex-3D ซึ่งส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ภายหลังจากนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ และนายพัฒนพล กุญชร เข้าไปในห้องไกล่เกลี่ยนานกว่า 3 ชั่วโมง นายพัฒนพล ได้ออกมาเปิดเผยว่า การเจรจาจบลงด้วยดี โดยนายรัฐภูมิยินยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท ขณะที่ตนยืนยันว่า สิ่งที่เคยพูดในสื่อเป็นความจริง แต่อยู่ในบริบทของอีกคดีหนึ่งที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกฎหมาย เรื่องที่ทางด้านนายรัฐภูมิฟ้องตนเองว่าไปหมิ่นประมาท ตนเองและนายรัฐภูมิก็ยอมความกันเรียบร้อย แต่สิ่งที่พูดไปก่อนหน้านั้น เป็นอีกคดีหนึ่งที่ได้แจ้งความไว้ก็จะเป็นอีกกรณี

ด้านนายอมร กุศล ทนายความ เปิดเผยว่า การพูดคุยในห้องไกล่เกลี่ยเป็นไปอย่างเปิดใจ ต่างฝ่ายต่างนำข้อเท็จจริงมาแลกเปลี่ยน ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีการพูดคุยกันมาก่อน ทำให้สามารถปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด โดยย้ำว่าไม่ได้มีการขอโทษหรือเยียวยาในรูปแบบทรัพย์สิน แต่เป็นการตกลงใจกันอย่างสมัครใจและยุติคดีนี้โดยไม่มีข้อผูกพันใด ๆ

เมื่อถามถึงคดีที่ดีเจแมนเคยกล่าวหานายรัฐภูมิในกรณีเรียกรับเงิน 14 ล้านบาท นายอมร ระบุว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะเป็นอีกคดีหนึ่ง และอาจกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม

นายพัฒนพล กล่าวย้ำว่า วันนี้เป็นการไกล่เกลี่ยคดีที่ตนถูกฟ้อง ไม่เกี่ยวกับคดีที่ตนเป็นผู้แจ้งความ คดีที่ด้านนายรัฐภูมิฟ้องตนเองจบแล้ว ส่วนอีกคดีที่ไปแจ้งไว้ ยังเดินหน้าตามกฎหมายต่อไป เรื่องใดจบได้ก็จบ ตนเองอยากใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ไม่อยากขึ้นศาลบ่อย ๆ พร้อมกล่าวถึงลูกสาวว่า “โตขึ้นแล้ว และอยากให้เธอเห็นพ่อที่เข้มแข็ง”

ทั้งนี้นายพัฒนพล ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์ในครอบครัว โดยเฉพาะอาการป่วยซึมเศร้าของภรรยา คือ นางสาวสุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย ซึ่งเคยเอ่ยปากว่า “ไม่อยากอยู่บนโลกนี้แล้ว” จึงมองว่า การยุติเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะครอบครัวกำลังต่อสู้กับภาวะกดดันและเศรษฐกิจอย่างหนัก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเยียวยาหรือชดใช้ทรัพย์สินใด ๆ เพื่อยุติคดีหรือไม่  นายพัฒนพล ยืนยันว่า ไม่มี เป็นแค่การตกลงใจกัน