ในวันที่ 3 ก.ค. เวลา 11.00 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ในฐานะรักษาการนายกฯ จะนำรัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้งเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ก่อนปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นเวลา 14.00 น. ภายหลังเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม.นัดพิเศษ เพื่อแบ่งงานรองนายกฯ และรัฐมนตรี

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ ว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ในการประชุม ครม.วันที่ 3 ก.ค. จะเซ็นหนังสือแต่งตั้ง “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย ให้ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกฯ

เมื่อถามต่อว่า มีอดีต สว.และอดีต สส.ออกมาระบุว่า น.ส.แพทองธาร ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณอาจติดเรื่องขาดคุณสมบัติรัฐมนตรี จะทำให้มีความสุ่มเสี่ยงหรือไม่ เพราะยังมีการตีความกันอยู่ ว่า น.ส.แพทองธารขาดคุณสมบัติ เพราะศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาเรื่องคุณสมบัติรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ ม.170 นายสุริยะ กล่าวว่า สลค. และฝ่ายกฎหมายได้ดูข้อกฎหมายชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย ไม่ห่วงตรงนี้เพราะเป็นการดูในภาพรวมที่กฤษฎีกาดูอย่างรอบคอบแล้ว

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ และบอกด้วยว่า ถ้าตนเองเป็นนายกฯ จะแก้ปัญหาชายแดนกัมพูชาโดยพูดคุยกับผู้นำกองทัพของกัมพูชาซึ่งมีความสนิทสนมคุ้นเคยกันดีเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน ตนรบมาตั้งแต่ร้อยตรีแล้ว ส่วนการทำงานการเมืองในอนาคตว่า จะทุ่มเทชีวิตที่เหลือทำการเมืองเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างคนใหม่ขึ้นมาแทนคนเก่าที่ถูกซื้อตัวไป จะไม่ตกปลาในบ่อเพื่อน และตั้งเป้าเลือกตั้งครั้งหน้าได้ สส. 60 คน 60 เขต ไม่รวมปาร์ตี้ลิสต์

เมื่อถามย้ำว่า พรรค พปชร.มีเสียงไม่ถึง 25 เสียง จะเสนอตัวเองเป็นนายกฯ ได้อย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เมื่อวันเลือกตั้ง เรามี สส. 40 คน ต้องนับ สส.จากวันนั้น

“เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า ถ้าจะให้ยุบสภา ต้องเป็นปัญหากรณีที่สภามีปัญหา และไม่สามารถทำหน้าที่ได้ แต่ขณะนี้ สส.ไม่ได้ทำผิด แต่คนที่ทำผิดคือนายกรัฐมนตรี ดังนั้นต้องแก้ไขด้วยการเปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่ได้ตะแบงว่าพรรค พปชร.ไม่อยากเลือกตั้ง เพราะถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริงพรรคก็พร้อม

ที่รัฐสภา “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า กล่าวถึงปัญหาของ น.ส.แพทองธาร ในขณะนี้ ว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายหากพรรคเพื่อไทย แก้รัฐธรรมนูญตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่อำนาจ ส่วนเรื่องจะไปทิศทางใด หากดูจากนายกฯ 4 คนที่ผ่านมาของพรรคเพื่อไทยทั้ง 3 รุ่น และของตระกูลชินวัตร ก็สามารถคาดเดาได้ว่าจะเดินทางไปสู่อะไร

“แม้ว่าจะไม่อยากให้เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าทางเลือกยังมีการยุบสภา เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ได้ไปออกรายการกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย เขาก็บอกว่าเลยไปแล้วที่จะพูดถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะนายกฯ ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปแล้ว พรรคภูมิใจไทยก็เห็นตรงกันว่ายุบสภาคือทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ และพรรค ปชน. คิดว่านักการเมืองทุกพรรคก็ไม่ควรที่จะกลัวการเลือกตั้ง วันนี้สถานการณ์ไม่ไปทางตัน การเมืองไม่เป็นทางตัน แต่ทางออกที่มีอยู่ คุณอยากเดินไปหรือไม่ นั่นคือการยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน เป็นนักการเมืองอย่ากลัวการเลือกตั้ง”

เมื่อถามว่ามองว่ามีกระบวนการที่พยายามจะผลักดันนายกฯ คนนอกหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ไม่มี วันนี้ต่อให้มีสถานการณ์ที่หากนายกฯ หลุดจากตำแหน่งไปสู่การเลือกแคนดิเดตเท่าที่มีอยู่ แต่ไม่มีใครครองเสียงข้างมาก 247 เสียงได้ ยกเว้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากองคมนตรีมา เชื่อว่าพรรคการเมือง ยกเว้นพรรค ปชน.น่าจะยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ ซึ่งต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นคนนอก เพราะถือว่ามีชื่ออยู่ และการจินตนาการนายกฯ มาตรา 5 และนายกฯ พระราชทาน ซึ่งไม่มีอยู่จริง และการจะมีนายกฯ พระราชทาน ต้องมีผู้รับสนองตามระบบ

จากที่มีข่าวว่า “หัวหน้าเท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. เคยพูดว่า “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เสนอตัวเป็นนายกฯ ชั่วคราว เพื่อฝ่าทางตันทางการเมือง โดยพรรค ปชน.จะสนับสนุน แต่พรรค ปชน.จะไม่ร่วมรัฐบาล และนายอนุทินต้องแก้รัฐธรรมนูญนั้น น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไม่ทราบว่านายณัฐพงษ์เอาข้อมูลนี้มาจากไหน เพราะนายอนุทินยังไม่เคยพูดคุยกับนายณัฐพงษ์ ประเด็นเรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องของอนาคต เพราะขณะนี้เรายังมีนายกรัฐมนตรีอยู่ หรือนายอนุทินเคยให้สัมภาษณ์ไว้เวลาถูกถามพร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ เขาก็ตอบว่าพร้อม เราพร้อมตั้งแต่ตอนเลือกตั้งปี 66 การที่พรรคภูมิใจไทยจะจับมือกับ ปชน. แล้วดันนายอนุทินเป็นนายกฯ นั้น ทั้งหมดเป็นสมมุติฐาน จึงไม่ขอตอบคำถามที่เป็นสมมุติฐาน

โฆษกแนน ยังกล่าวถึงมติที่ประชุมพรรค ว่า ที่ประชุมพูดคุยเรื่องการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 แต่จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี พรรคเคารพการตัดสินของศาล ดังนั้นพรรคจะยังไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จนกว่าจะมีคำตัดสินของศาลออกมาว่าเป็นไปในทิศทางใด จึงจะปรึกษาหารือกันอีกครั้ง

ที่อาคารอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า ภายใต้สมการทางการเมืองแบบที่เป็นอยู่ จากจำนวน สส.ในสภาที่เป็นอยู่ พวกเราเห็นว่า การเปลี่ยนตัวนายกฯ ไม่ว่าจะกระบวนการใดก็ตาม ทั้งการลาออก หรือถอดถอนในกระบวนการนิติสงครามที่เราไม่เห็นด้วย ไม่สามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ ตนจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันที่ 3 ก.ค.นี้ เพื่อหาแนวทางการทำงานร่วมกัน

“ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราวนั้น ต้องเรียนตามข้อเท็จจริงมีการพูดคุยกันอยู่ตลอด แต่ในรายละเอียด ผมขอยังไม่สื่อสารในตอนนี้ เนื่องจากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แต่ขอยืนยันว่า เราไม่ได้มองว่าการเมืองจะถึงทางตัน เพราะการเดินเข้าสู่ทางตัน มีกรณีเดียว คือกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามสร้างเงื่อนไขให้ไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร”

เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อนายอนุทิน พรรค ปชน.จะโหวตให้ โดยไม่ร่วมรัฐบาลหรือไม่ หัวหน้าเท้ง กล่าวว่า ขอยังไม่ลงรายละเอียด เพราะยังไม่อยากยืนยันในตอนนี้ ยังพูดฝ่ายเดียวไม่ได้ ทางพรรคภูมิใจไทย และนายอนุทินเองก็ต้องเห็นด้วยกับเรา เพราะที่ผ่านมา ในการคุยนอกรอบ หรือไม่เป็นทางการ ยังมีตัวเลือกความเป็นไปได้ต่างๆ อื่นอีก

ที่อาคารอนาคตใหม่ ในการประชุม สส. ของพรรค ปชน. สส.หารือถึงสถานการณ์ทางการเมือง โดย สส.เห็นว่า ปชน.สามารถช่วยโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่ได้ โดยไม่ต้องไปร่วมรัฐบาล แต่ต้องมีเงื่อนไขเบื้องต้นคือ รัฐบาลใหม่ต้องเป็นรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมจัดการเลือกตั้งใหม่พร้อมกับจัดทำประชามติถามประชาชนเรื่องตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เร็วที่สุด ซึ่งระหว่างนี้น่าจะสามารถคลี่คลายสถานการณ์กรณีพิพาทไทย-กัมพูชาให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ แล้วยุบสภาภายในปลายปีนี้หลัง พ.ร.บ.งบประมาณผ่านสภาแล้ว

“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวเสนอตัวเองนั่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวว่า งงว่ามีกระแสข่าวได้อย่างไร เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ได้เห็นคลิปว่ามีการเสนอชื่อตนเองขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ก็งงว่าไปเสนอตัวเมื่อไร ไม่รู้ว่าเป็นการทำไอโอของใครหรือไม่ ส่วนกรณีที่นายณัฐพงษ์ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยประสานเสนอตนเองเป็นนายกฯ ชั่วคราว ในพรรคไม่มีใครทราบเรื่อง จึงขอปฏิเสธกระแสข่าวนี้

“ใครจะเป็นนายกฯ ต้องได้รับเสียงสนับสนุน เกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ผมพูดอย่างที่เคยพูดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่เคยแข็งแกร่งมาก มีเสียงสนับสนุนถึง 320 เสียง การจะลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็มีเพียงแค่ 2 ทางเท่านั้น คือยุบสภากับรัฐบาลถึงทางตัน แล้วใครคือผู้ระบุว่า ถึงเวลาทางตันแล้ว ว่ากันไปตามสถานการณ์ และยิ่งพูดในฐานะพรรคภูมิใจไทย ยิ่งพูดไม่ได้ เพราะได้พรรคร่วมแล้ว”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมพรรคภูมิใจไทย จะส่งนายธีระ ไตรสรณกุล ลงชิงเก้าอี้ สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อีกครั้ง หลังการเลือกตั้งที่ผ่านมา นายธีระ แพ้นายอมรเทพ สมหมาย สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งเสียชีวิต

ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) “ปลัดตุ๋ม” จตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ อดีตปลัด ทส. ได้เดินทางมายังกระทรวง เพื่อเข้ามารับประทานอาหารกับผู้บริหารระดับสูง และอธิบดีในสังกัด ทส. โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย นายโสภณ ทองดี อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ในฐานะแกนนำพรรคโอกาสใหม่ ร่วมด้วย และมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่มาส่ง ร่วมแสดงความยินดีกับตำแหน่งใหม่

ปลัดตุ๋มให้สัมภาษณ์ว่า ขอฝากปลัดใหม่ทำให้ ทส.เป็นหนึ่งเดียว เพื่อผลักดันนโยบายทุกเรื่องของกระทรวงร่วมกัน เพราะเรื่องนี้แยกกันทำไม่ได้ โดยในส่วนของตำแหน่งใหม่ของตน ตอนนี้ประชาชนต้องการความมั่นใจ เช่น เรื่องพืชผล ตนจะลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ประมาณวันที่ 4 ก.ค. นี้ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน เบื้องต้นได้ประสานงานกับทางพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว มันมีเรื่องต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่ต้องคุยกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะขอทำงานให้ดีที่สุด ส่วนการเข้าทำงานกระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะเป็นช่วงสัปดาห์หน้า.