เมื่อเวลา 10.35 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่กระทรวงวัฒนธรรม น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรงว่าในบางครั้งในการสะกดคำของตนก็เกิดความผิดพลาด และบางครั้งก็ไมค์ในการทอล์กให้พิมพ์อัตโนมัติ ซึ่งในครั้งนั้นตนได้ทำการโพสต์ไปแล้ว 2-3 ชั่วโมง ตนถึงมารู้ภายหลังว่าเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ขอยอมรับด้วยความจริงใจว่าเกิดความผิดพลาด วันนี้ตนได้มารับตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ สิ่งหนึ่งที่จำเป็นต้องทำคือเรื่องของการปรับปรุง หลังจากนี้เรื่องผิดพลาดเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น เพราะอยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน อีกเรื่องหนึ่งเป็นประเด็นในเรื่องของการออกเสียงควบกล้ำ โดยเป็นปัญหาเรื่องสุขภาพของตน ซึ่งตนจะทำให้ดีที่สุด ในภาพของกระทรวงใหญ่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการคุยรายละเอียดอย่างชัดเจน โดยจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 ก.ค. 2568

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวอีกว่า แต่ในส่วนตัวหากใครได้ติดตามตน ตนจะเป็นคนพูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ในเรื่องของการสอบ TCAS ในการลดค่าสอบ รวมถึงเรื่องของการทำโครงการให้เด็กไทยมีสุขภาวะจิต ซึ่งจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะกลับมาสานต่อในกระทรวงศึกษาฯ เรื่องของการเยียวยาใจครู และฟื้นฟูใจเด็ก ย้ำว่าในเรื่องที่ตนผิดพลาด ตนยอมรับ แต่ในเรื่องของการทำงาน การกำหนดนโยบายเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ซึ่งตนได้มาทำหน้าที่ตรงนี้ ก็อยากให้มองเนื้องานอย่างเต็มที่ เพราะตนมีความตั้งใจ เนื่องจากคนรอบตัวเป็นครูทั้งหมด รวมถึงตนด้วย รวมถึงปัญหาการศึกษาและปัญหาของครู ตนทราบอยู่ในระดับหนึ่งและจะทำการแก้ไข และหลังจากนี้ทุกคนจะได้เห็นว่าตนจะสามารถทำอะไรได้ แต่ต้องหารือกับ รมว.ศึกษาธิการ

เมื่อถามว่ากรณีดราม่าที่เกิดขึ้น ในฐานะที่เคยเป็นอาจารย์มาก่อน ทำไมถึงเกิดผิดพลาดขึ้น น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า แม้จะเคยเป็นอาจารย์มาก่อน ก็มีข้อผิดพลาดได้เช่นเดียวกับความรู้ คนเป็นอาจารย์มาก่อนก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง แต่ตนยอมรับในความผิดพลาดเรื่องของการสะกดคำ อาจไม่ถูกต้องตามอักขระ หลักเกณฑ์ บางครั้งตนใช้ความรวดเร็วโดยไม่ได้ตรวจสอบ ซึ่งก็เกิดผลเสียอย่างที่เป็นอยู่ ตนน้อมรับและพร้อมจะแก้ไข เพราะอยากให้เยาวชนเดินในทางที่ถูก และจะไม่มีความผิดพลาดในเรื่องนี้อีก

“ไม่ใช่ว่าไม่ยอมรับ แต่คนเป็นครูบาอาจารย์ผิดไม่ได้เลย อันนี้คงเป็นข้อเท็จจริงที่มันไม่จริง เมื่อผิดรู้แล้วจะแก้ไขหรือไม่ หรือจะทำให้ดีขึ้นหรือไม่ ตนรับ 2 ข้อ คือ ผิดแก้ไขให้ดีขึ้น และทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม นี่คือสิ่งที่รับปากได้” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว