เมื่อวันที่ 18 พ.ย. นายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. เปิดเผยว่า ทางทีมงานผู้พัฒนาเหรียญสกุลเงินดิจิทัล “สมเด็จคอยน์” หรือ “Somdejcoin : SDC” ได้เข้ามาขอความเห็นในการดำเนินการจัดสร้างเหรียญดังกล่าว ซึ่งทาง พศ.ได้ให้ความเห็นไปว่า พศ.ไม่มีอำนาจชี้ผิด ชี้ถูก ในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งไม่มีข้อห้ามระบุไว้ เนื่องจากมีลักษณะเช่นเดียวกับการจัดสร้างพระเครื่องทั่วไป อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา คอยตรวจสอบดูว่ามีการนำเหรียญดิจิทัลดังกล่าวไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ ซึ่งทางทีมผู้พัฒนาเหรียญดิจิทัล “สมเด็จคอยน์” ระบุถึงวัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง ว่า เพื่อการกุศล ช่วยเหลือสังคมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยมีการจัดสร้างเท่ากับจำนวนคนไทยในปี 2563 จำนวน 66,186,727 เหรียญ ซึ่งหลังจากนี้ทางทีมงานจะนำความเห็นจาก พศ. ไปชี้แจงกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต่อไป

โฆษก พศ. กล่าวต่อไปว่า ทีมงานผู้พัฒนาเหรียญดังกล่าวยืนยันว่า เหรียญดิจิทัล “สมเด็จคอยน์” จะมีการแจกฟรี ทั้งชี้แจงด้วยว่า “สมเด็จคอยน์” ยังไม่มีค่า แต่จะมีค่าต่อเมื่อเกิดการนำไปแลกเปลี่ยน และทางระบบก็จะมีการหักรายได้ที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนไปบำรุงพระพุทธศาสนา

ทั้งนี้จากข้อมูลที่ระบุในเว็บ www.somdejcoin.com ระบุรายละเอียดว่า “สมเด็จคอยน์” ตัวย่อเหรียญ SDC เป็นเหรียญดิจิทัล วัตถุประสงค์เพื่อการกุศล ช่วยเหลือสังคมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้คนไทยและคนทั่วโลกเข้าถึงเหรียญสมเด็จดิจิทัลเหรียญรุ่นแรกของโลกโดยอิงกับประวัติศาสตร์ของชาวไทยและชาวเอเชีย ที่มีชื่อเสียงพร้อมทั้งวัฒนธรรมมาอย่างยาวนาน และยังสามารถเข้าถึงเหรียญสมเด็จดิจิทัลให้มีโอกาสอย่างน้อยคนละ 1 เหรียญ เพื่อเป็นของที่ระลึกพร้อมทั้งยังสามารถทิ้งไว้เป็นมรดกโลกให้กับคนรุ่นหลังได้อีกด้วย

ระบบการทำงานของเหรียญ “สมเด็จคอยน์” จะหักเงินส่วนหนึ่งนำไปทำนุบำรุงศาสนาและช่วยเหลือสังคมในประเทศไทย โดยทางวัดป่ามหาญาณจะเป็นตัวแทนในการช่วยเหลือสังคมและมูลนิธิทั่วประเทศไทย ในอนาคตเหรียญจะสามารถนำไปใช้จ่ายในการซื้อ ดอกไม้ธูปเทียน สังฆทาน รวมถึงเช่าพระเครื่องภายในวัดได้โดยการติดต่อทางผู้พัฒนาจะอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำ เพื่อช่วยบริการแลกเปลี่ยนเหรียญเป็นเงินบาทผ่านระบบแลกเปลี่ยนต่างๆ ให้กับวัดโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม