เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศพดส.ตร. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐาน รอง ผอ.ศพดส.ตร. พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย ผกก.สภ.บ้านกร่ำ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ประสานข้อมูลทางการสืบสวนผ่าน พล.ต.อ.วรรณวีระ สม ผู้ช่วย ผบ.ตร.และผู้บัญชาการกองบัญชาการรักษาความมั่นคงภายในประเทศกัมพูชา ก่อนสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทางการกัมพูชา และตำรวจศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์และภาคประมงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) บุกเข้าไปช่วยเหลือคนไทยที่ถูกกักขังอยู่ในที่พักกลางกรุงพนมเปญ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 3 ชั้น มีลักษณะเป็นห้องพักมีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่นำกำลังบุกเข้าไปช่วยเหลือคนไทยได้ทั้งหมด 99 คน ที่กระจายอยู่กันอย่างแออัดภายในห้องพักของอาคารดังกล่าว นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมชาวจีน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลได้จำนวนหนึ่ง

จากการสอบสวนเหยื่อชาวไทยให้การว่า ก่อนหน้านี้ถูกชักชวนให้มาทำงานจากโพสต์ประกาศหางาน ในรายละเอียดระบุลักษณะงานทำหน้าที่แอดมิน ตอบแชตลูกค้า แต่เมื่อมาถึงกลับถูกบังคับให้ทำงานโทรศัพท์กลับมาหลอกคนไทยต่ออีกทอดในลักษณะของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลอกลงทุนและทำแอพพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบแบบกู้เงิน จ่ายค่าธรรมเนียม ซึ่งหากไม่ทำก็จะถูกซ้อม ถูกกักขังให้อดอาหารและถูกเฆี่ยนตี ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฉกรรจ์ตามศีรษะและร่างกาย บางคนที่ค่อนข้างมีฐานะจะถูกเรียกค่าไถ่ บ้างก็ถูกขายทอดให้กับแก๊งอื่น ทำให้ได้รับความทุกข์ทรมาน จนต้องพยายามประสานให้ตำรวจเข้าช่วยเหลือ

ด้าน พล.ต.อ.รอย กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ทุกหน่วยงานราชการบูรณาการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทาง ศพดส.ตร. ได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบพิกัดสถานที่กักขังคนไทยที่ถูกหลอกลวงไปทำงานในประเทศกัมพูชา จนสามารถช่วยเหลือคนได้ 99 คน ซึ่งเป็นชุดที่ 3 ที่ตำรวจสามารถบุกเข้าไปช่วยเหลือ หลังจากก่อนหน้านี้ช่วยเหลือคนไทย 48 คน และ 61 คน ที่ถูกบังคับหลอกไปทำงานในเมืองสีหนุวิลล์ พนมเปญ และปอยเปต ประเทศกัมพูชา

ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนเชื่อว่า ยังมีคนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่ถูกหลอกในลักษณะการค้ามนุษย์ ซึ่งทาง ศพดส.ตร.ได้ประสานงานกับทางการกัมพูชาอย่างใกล้ชิด เพื่อหาทางช่วยเหลือให้คนไทยเหล่านี้ได้รับอิสรภาพ เพราะจากสภาพของเหยื่อพบว่า ถูกกักขังทรมาน กลุ่มคนที่ตัดสินใจไปทำงานส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงานวัยรุ่น ที่มีศักยภาพทางด้านภาษาและการใช้คอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนจากนี้คนไทยทั้ง 99 ราย จะถูกนำตัวไปอยู่ในการดูแลของสถานกงสุลไทยในกรุงพนมเปญ เพื่อรอขั้นตอนในการประสานงานเพื่อนำตัวคนไทยทั้งหมดกลับมาผ่านชายแดนไทยกัมพูชาใน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อต่อไป.