จากกรณี ที่บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งออกมาชี้แจ้งเกี่ยวกับเรื่องของ น.ส.พัชราภา เกรัมย์ หรือ “น้องหญิง” อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปีที่ 4 ที่เสียชีวิตจากถูกรถเบนซ์ชนท้ายรถจักรยานยนต์ เมื่อ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างขี่รถกลับบ้านว่า ฝ่ายน้องหญิงประมาทร่วม เพราะมีหลักฐานการเฉี่ยวชนว่าฝ่ายน้องขี่ จยย.พุ่งออกมาตัดหน้ารถเบนซ์ (ผู้เอาประกัน) จึงถือเป็นเหตุประมาทร่วม ขณะที่อัยการจังหวัดบุรีรัมย์ได้ยื่นมาเข้าช่วยเหลือครอบครัวของน้องหญิง โดยจะให้ไปยื่นคำร้องเพื่อประสานทาง บ.ประกัน และ คปภ.เข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยกัน เพื่อหาทางออกแต่หากตกลงกันไม่ได้จริง ๆ ก็จะช่วยเหลือฟ้องแพ่งตามขั้นตอนกฎหมาย ดังที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ด้าน นายโชติวุฒิ เขียนนิลศิริ สามีของหญิงสาวที่ขับรถเบนซ์ และอดีตประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ที่จริงแล้ว “คปภ.” มีอำนาจในการบังคับให้บริษัทประกันจ่าย แต่แปลกที่ยังไม่สามารถกระทำได้ บริษัทจะต้องมาดูแลให้บริการเหมือนตอนที่อยากขายประกัน ประกันของรถเบนซ์คันนี้ เสียค่าประกันรายปีละประมาณ 50,000 บาท ทำให้ยอดเยียวยาสูงถึง 2 ล้าน บวกกับ พ.ร.บ.ภาคบังคับอีก 500,000 บาท รวม 2.5 ล้าน เงินจำนวนนี้น่าจะไปเยียวยาจิตใจของผู้สูญเสียและสภาพฐานะของผู้ประสบเหตุ เพราะสภาพจิตใจของทั้งพ่อแม่ และคนขับรถเบนซ์ หรือ ภรรยาของตน ต่างได้รับผลกระทบทางจิตใจ ถ้าพูดถึงเรื่องนี้จะต้องร้องไห้ทุกครั้ง

นายโชติวุฒิ กล่าวอีกว่า ภาพจากกล้องวงจรปิดก่อนจะถึงจุดเกิดเหตุเพียง 200 เมตร จะเห็นว่า จยย.ของน้องหญิง วิ่งมาจากบุรีรัมย์แล้วมีรถตามหลังมาอีก 4 คัน ก่อนรถเบนซ์ของภรรยาจะวิ่งตามเป็นคันที่ 5 ซึ่ง จยย.ของน้องหญิง หลุดจากกล้องวงจรปิดไปเพียงแค่ 20 วินาทีเท่านั้น ก่อนที่รถเบนซ์จะขับตามไป จึงไม่มีโอกาสที่ จยย.ของน้องหญิงจะแวะลงข้างทาง แล้วขี่พุ่งออกมา จนทำให้รถเบนซ์ชน ตามคำกล่าวอ้างของบริษัทประกัน ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการประมาทร่วมแน่นอน.