เมื่อวันที่21 พ.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีบุตรหลานอายุ 0-15 ปีต่อกรณี ‘การเลี้ยงดูเด็กในยุคโควิด-19‘ จำนวนทั้งสิ้น 1,154 คนระหว่างวันที่ 15-18 พ.ย.พบว่าปัจจุบันคนในครอบครัวปู่ย่าตายายเป็นคนเลี้ยงดูเด็ก ร้อยละ 49.14 รองลงมาคือ เลี้ยงเอง ร้อยละ 45.45 เมื่อเปรียบเทียบยุคสมัยก่อนกับยุคสมัยนี้การเลี้ยงดูบุตรหลานยากขึ้น ร้อยละ 77.64 วิธีดูแลบุตรหลานในยุคโควิด-19 คือ ใช้เวลาร่วมกันหากิจกรรมทำร่วมกัน ร้อยละ 83.75 รองลงมาคือเน้นดูแลสุขอนามัย ร้อยละ 69.23 สิ่งที่หนักใจคือกังวลการติดเชื้อโควิด-19 ร้อยละ 74.57 รองลงมาคือเรื่องการเรียน ร้อยละ 62.90 ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตรหลานเฉลี่ยประมาณ 7,974.60 บาทต่อเดือน

โดยมองว่าบุตรหลานค่อนข้างสามารถดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ ร้อยละ56.10 สิ่งที่อยากให้ภาครัฐดำเนินการเกี่ยวกับการดูแลเด็กคือช่วยเหลือเด็กที่ด้อยโอกาสทางสังคมเด็กเร่ร่อนเด็กกำพร้า ร้อยละ 80.87 ทั้งนี้ผู้ปกครองมองว่าเด็กในปัจจุบันเลี้ยงดูยากขึ้นและมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเฉลี่ยเกือบ 8,000 บาทต่อเดือน เมื่อพิจารณาข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่ารายได้ของครัวเรือนไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 เฉลี่ยประมาณ 28,454 บาทค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเด็กจึงคิดเป็น 1 ใน 3 ของรายได้ดังนั้นสิ่งที่จะส่งเสริมการเลี้ยงดูเด็กให้สามารถเติบโตและพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพก็คือนโยบายของรัฐที่เน้นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำสนับสนุนการศึกษาเด็กทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมเพื่อให้เด็กมีความพร้อมในการเป็นพลเมืองในศตวรรษที่ 21 บนพื้นฐานการคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของเด็กเป็นสำคัญ