จากกรณี “ไอซ์-รักชนก ศรีนอก” กลุ่มพลังคลับเฮาส์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเล่าว่าถูก ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับชื่อดัง ตบหน้าและถีบท้องหลังนัดเคลียร์ใจถึงปัญหาเรื่องม็อบการเมือง โดยนัดพบที่ท่าเรือแถวคลองสาน เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทางด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ ผกก.สน.ปากคลองสาน ได้เตรียมออกหมาย “ต้อม ยุทธเลิศ” มารับทราบข้อหาทำร้ายร่างกาย ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

-จ่อออกหมายเรียก “ต้อม ยุทธเลิศ” รับข้อหา ตบหน้า ถีบท้อง “ไอซ์ รักชนก”

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. “ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค” ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ระบุว่า “ไม่รู้ไอซ์มางานได้อย่างไร ถามใครเชิญมา เพราะไม่อยากเจอเขา กลัวว่าจะเป็นเรื่อง ปรากฏว่าไม่มีใครรู้เรื่อง ก็เลยทะเลาะกัน แต่ก็เป็นการทะเลาะวิวาท ถ้าใช้คำว่าทำร้ายร่างกายมันเกินไป ถ้าทำร้ายร่างกายจริง อีกฝ่ายเดินไม่ได้หรอก ส่วนที่ตบสองครั้ง ถ้าตบสองครั้งจริงใบหน้าต้องบวมแล้ว ถ้าไปแจ้งความก็ต้องดูว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า”

นอกจากนี้ เวลาตนเมา ตนก็มีการ์ด เขามาเพื่อคุ้มกันตนและคอยล็อกตลอด ไม่มีทางทำอะไรได้เลย แต่เมื่อมีการแจ้งความกันแล้วก็ว่าความ ผิดก็ว่าไปตามผิด ตามหลักฐานที่มีแค่นั้น จะขอโทษขอโพยอะไรไปว่ากันที่โรงพัก อย่าพูดเรื่องทำร้ายร่างกาย ของตนคือการทะเลาะวิวาทเท่านั้น เวลาคนเมาทะเลาะกัน คิดว่าคนเมาคุยกันรู้เรื่องที่ไหนเพราะคนเยอะ ไม่รู้อะไรเป็นอะไร และจำไม่ได้ด้วย “ในวันเกิดเหตุตนอยู่บนเรือแล้ว และได้รับเชิญจากผู้จัดงานส่องทวีตยามเช้า แต่คู่กรณีไม่ได้ถูกเชิญกลับลงมาบนเรือ จึงถามคนจัดงานว่าใครเชิญ ยอมรับว่าไม่อยากเจอไอซ์ อยากให้ทุกคนนึกภาพคนสองคนไม่ถูกกัน เมื่อเจอหน้ากันในสภาพที่มีอาการมึนเมาอะไรจะเกิดขึ้น สุดท้ายก็เป็นเรื่องจนได้ หากตำรวจส่งหมายเรียกเพื่อไปให้ปากคำก็พร้อมจะเดินทางไปพบ ยืนยันว่าเป็นการทะเลาะวิวาท ไม่ใช่ทำร้ายร่างกาย”

ทั้งนี้ ผู้กำกับคนดังยังกล่าวเพิ่มอีกด้วยว่า ที่ผ่านมามีความพยายามใส่ร้ายมาตลอด เพื่อให้ตนไปขอโทษ แอมมี่ หรือนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ นักร้องวงเดอะบอททอม บลูส์ และ ทราย อินทิรา เจริญปุระ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการทะเลาะกันต่อในแอพพลิเคชั่นคลับเฮาส์ แต่โดยส่วนตัวตนเชื่อว่าตนไม่ได้ทำอะไรผิด จึงถามกลับไปว่าทำไมต้องขอโทษ ที่สำคัญทั้งแอมมี่และทราย เป็นน้องที่ตนรู้จักมานาน แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวเลย หลังจากนั้นตนก็ถูกใส่ร้ายป้ายสีเรื่อยมา..