จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองกีรติ ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซ่า จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วม บก.สส.ภ.4, ภ.จว.ขอนแก่น และ สภ.เมืองขอนแก่น ยังคงไล่ล่าติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบเมื่อวันที่ 23 พ.ย. พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะ โฆษก ตร.ภ.4 กล่าวว่า ยืนยันชัดเจนว่าคนร้ายสามารถนำทองคำรูปพรรณ ซึ่งเป็นสร้อยข้อมือไปได้รวม 24 บาท รวมมูลค่าความเสียหาย 720,000 บาท ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงพื้นที่ไล่ล่าติดตามตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนรอบสถานีรถไฟขอนแก่น เนื่องจากการสืบสวนได้มีการไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและสอบปากคำพยาน ตั้งแต่ประตูหน้าห้างฯ ซึ่งพบว่าคนร้ายวิ่งมาตามถนนศรีจันทร์ และเลี้ยวขวาผ่านชุมชนรถไฟ วิ่งผ่านตลาดรถไฟและสถานีรถไฟ ก่อนได้หายตัวไป รวมระยะทางในการวิ่งหลบหนีจากห้างฯ มาที่สถานีรถไฟ ระยะทางกว่า 2 กม.
ระทึกกลางห้างเซ็นทรัลขอนแก่น โจรบุกเดี่ยวปืนจี้ชิงทองยิงเปิดทางซิ่งจยย.หนี
“จากการสอบสวนขณะนี้พบว่าจุดสุดท้ายที่พบเบาะแสคนร้าย คือบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟขอนแก่น ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. ดังนั้นเมื่อมีการตีกรอบระยะพื้นที่จากจุดที่พบล่าสุด คือโดยรอบสถานีรถไฟ ที่คนร้ายสามารถใช้เป็นเส้นทางหลบหนีได้ ทั้งการออกไปทางถนนรื่นรมย์ ตัดเข้าตลาดโต้รุ่ง การวิ่งไปตามอาคารพาณิชย์ เพื่อเข้าชุมชนรถไฟ หรือชุมชนวัดวุฒาราม หรืออาจจะวิ่งตรงไปตามถนนรถไฟ ไปในจุดโรงเรียนแก่นนคร หรืออาจจะเลี้ยวขวา ออกไปเส้นทางถนนมิตรภาพ ซึ่งขณะนี้กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่องในทุกจุดแล้ว” รอง ผบช.ภ.4 กล่าว
วงจรปิดจับภาพชัดโจรควงปืนบุกเดี่ยว ชิงทองร้านดังห้างเซ็นทรัลขอนแก่น
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวต่อว่า ในส่วนเสื้อผ้าที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญ จากภาพที่บันทึกได้นั้นได้ถูกนำมาวิเคราะห์ในทุกมิติ ซึ่งคนร้ายอาจจะเป็นคนที่ชอบดูหนัง หรือชอบยุทธวิธีและการอำพรางตัว ทั้งหมดจะถูกนำมารวบรวมไว้ในแนวทางการสอบสวน แต่ไม่สามารถที่จะเปิดเผยรายละเอียดไปได้มากกว่านี้ เนื่องจากจะกระทบกับแนวทางและสำนวนการสอบสวนและการทำงานของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นทุกอย่างอาจจะมองว่าช้า แต่การทำงานของตำรวจต้องละเอียด รอบคอบ ชัดเจน แม่นยำในทุกทุกมิติ เพื่อนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามขณะนี้ บช.ภ.4 ได้มีการเผยแพร่ภาพคนร้ายและการตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาทในการให้ทุกคนได้ช่วยแจ้งเบาะแสของคนร้ายต่อไป.