จากกรณี นายโกมินทร์ วนาดอน อายุ 45 ปี พนักงานส่งของตลาดกิตติ ย่านบางแค กรุงเทพฯ ทะเลาะและมีปากเสียงกับนายกนก หรืออุ้ม เข็มหนู อายุ 40 ปี ต่อมา นายเอส (ไม่ทราบชื่อและสกุลจริง) ซึ่งเป็นเพื่อนกับนายกนก ใช้ปืนยิงใส่นายโกมินทร์ 3 นัด จนได้รับบาดเจ็บ และเมื่อเดินทางไปแจ้งความกลับมีบุคคลคล้ายคนในเครื่องแบบพยายามเข้ามาเจรจาขอไกล่เกลี่ยและเยียวยาด้วยเงิน นายโกมินทร์ ​เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ​จึงร้องเรียนสื่อมวลชน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เหยื่อ “เอส บางแค” ผวาร้องสื่อฯ ถูกยิงกลางตลาดเจ็บ หวั่นชีวิตไม่ปลอดภัย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.วิศิษฐ์ วัฒนพงษ์พิทักษ์ ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.สุนทร มาลาเวช รองผกก.สส. และ พ.ต.ท.สยาม ชื่นครุฑ สว.สส. เปิดเผยผลจับกุมผู้ก่อเหตุในคดีดังกล่าวครบทั้ง 3 ราย ได้แก่ นายกนก หรืออุ้ม นายเศรษฐี หรือเอส เตชะบุญรักษา อายุ 29 ปี และนายสุรารักษ์ หรืออ๊อฟ ทองแท้ อายุ 41 ปี หลังร่วมกันก่อเหตุใช้ปืนยิงเข้าใส่ นายโกมินทร์ พร้อมของกลางปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า ขนาด 6.35 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน


พล.ต.ต.โชคชัย เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายกนก มีปากเสียงกับนายโกมินทร์ ผู้เสียหายเรื่องที่จอดรถในตลาด จากนั้น นายเศรษฐี ซึ่งมาพร้อมกับ นายสุรารักษ์ ภายหลังเห็นว่า นายกนก จะถูกทำร้ายจึงใช้ปืนที่พกติดตัวมายิงขึ้นฟ้าและยิงที่พื้นทำให้กระสุนถูกนายโกมินทร์ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายเศรษฐีก็ซ้อนรถจยย.​นายสุรารักษ์​หลบหนีไป ภายหลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ติดตามตัวและกดดัน กระทั่งเมื่อช่วงเช้าผู้ก่อเหตุเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของนายเศรษฐี ไม่พบว่าเคยถูกดำเนินคดีหรือมีหมายจับคดีอาญา มีเพียงคดีหมิ่นประมาทกับทางภรรยาเก่าเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีบุคคลแอบอ้างว่าจะขอไกล่เกลี่ยและยอมความไม่ให้ผู้เสียหายเอาความนั้น ได้ให้ทาง ผบก.น.9 และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว


เบื้องต้นตำรวจจะสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอย่างละเอียด ก่อนแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ส่วนนายเศรษฐี ซึ่งเป็นคนยิง ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับ​อนุญาต พกพาอาวุธปืนฯ และยิงปืนในที่สาธารณะฯ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ดำเนินคดี