“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เตรียมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” ที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 5 ธ.ค.64-วันที่ 1 ธ.ค.65 โดย ช้างศึก อยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับ “เจ้าภาพ” สิงคโปร์, เมียนมา, ฟิลิปปินส์ และติมอร์เลสเต

มาโน โพลกิง หัวหน้าโค้ช และทีมงาน เตรียมหั่นนักเตะจากประมาณ 70 คน เหลือ 30 คน โดยเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ได้มีการประชุมครั้งสุดท้าย เพื่อเคาะรายชื่อนักเตะ หลังจากตระเวนชมเกมรีโว่ไทยลีก จนถึงนัดวันที่ 21-22 พ.ย. ที่ผ่านมา ก่อนจะประกาศอย่างเป็นทางการ วันที่ 24 พ.ย.นี้

“พ่อบ้านโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงเรื่องของระบบการแข่งขันด้วยว่า อย่างที่ทราบกันดีว่าในรอบรองและรอบชิงชนะเลิศ แม้ว่าจะจัดในสนามกลาง ที่มีประเทศเจ้าภาพ แต่ก็ยังใช้ระบบการแข่งขันแบบ 2 นัดเหย้า-เยือน เหมือนปกติ ทว่าจะมีกฎที่เปลี่ยนไป คือจากเดิมที่ใช้กฎการนับประตูทีมเยือน (อเวย์โกล) ทว่าจากที่ได้ประชุมล่าสุด ทางสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน​ (เอเอฟเอฟ) ตัดสินใจยกเลิกกฎอเวย์โกลในการแข่งขันครั้งนี้ เท่ากับว่าใน 2 เกมจะเป็นการนับประตูรวม ใครยิงได้มากกว่า จะได้ผู้ชนะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ หรือถ้าเสมอกันก็จะต่อเวลาพิเศษ และยิงจุดโทษหาผู้ชนะต่อไป

สำหรับทีมชาติไทยจะเรียกนักเตะมารายงานตัว ในวันที่ 29 พ.ย. จากนั้นออกเดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์ วันที่ 1 ธ.ค. โดยโปรแกรมนัดเปิดสนาม พบ ติมอร์เลสเต วันที่ 5 ธ.ค.

ทั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะประกาศรายชื่อ 30 นักเตะ ในวันนี้ (24 พ.ย.64)

(รูปหลักจาก AFF Suzuki Cup)