สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ว่า นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเมื่อวันอังคาร เกี่ยวกับกรณีของเผิง ฉ่วย นักเทนนิสหญิงชื่อดังชาวจีน วัย 35 ปี ที่ออกมาเปิดโปงเมื่อต้นเดือนนี้ ว่าตกเป็นเหยื่อของการถูกล่วงละเมิดทางเพศจากนายจาง เกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน วัย 75 ปี และการมีความสัมพันธ์ซ่อนเร้นกับอีกฝ่าย แล้วหลังจากนั้น เผิง ฉ่วย หายตัวไปนานหลายสัปดาห์ ก่อนกลับมาออกสื่ออีกครั้งในสัปดาห์นี้ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เผิง ฉ่วย “ใช้ชีวิตและปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ”


อย่างไรก็ตาม “บุคคลบางกลุ่มมีเจตนาร้ายในการโหมกระพือ” กรณีดังกล่าว “ให้ลุกลามมากเกินไป” และพยายามเชื่อมโยงเรื่องของเผิง ฉ่วย เข้ากับเรื่องการเมือง “ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น” ทว่าไม่ได้เจาะจง ว่าหมายถึงกลุ่มบุคคลใด


ในเวลาเดียวกัน บทบรรณาธิการของโกลบอล ไทม์ส และ พีเพิลส์ เดลี ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวถึงการที่กรุงปักกิ่งเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลมปิกฤดูหนาว ในเดือน ก.พ.ปีหน้า “คือเส้นทางที่ยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่ง” ของการเป็นมหาอำนาจให้กับจีน แม้ “กองกำลังต่อต้านจีน” เดินหน้ายกระดับการเคลื่อนไหวการเผยแพร่แนวคิดต่อต้านจีน แต่จีนมองว่า เรื่องที่กำลังเกิดขึ้น คือบททดสอบศักยภาพของตัวเอง ใรการรับมือและจัดการกับภาวะวิกฤติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะยิ่งทำให้จีนเป็นมหาอำนาจที่แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น


ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กำลังพิจารณา “มาตรการคว่ำบาตรทางการทูต” ต่อโอลิมปิกฤดูหนาวที่กรุงปักกิ่ง ที่โดยหลักการหมายความว่า จะไม่มีเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลวอชิงตันเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขัน.

เครดิตภาพ : AP