เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม นายธีรวัฒน์ วีระวัฒน์ กลุ่มทนายจิตอาสา นำนายเทพ (สงวนนามสกุล) และน.ส.สุจิตรา (สงวนนามสกุล) บิดาและมารดาของ “น้องฟิล์ม” อายุ 16 ปี ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถสองแถวรับจ้างที่ จ.นครพนม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา และคู่กรณีได้หลบหนี เข้ายื่นหนังสือต่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้เข้าตรวจสอบและเข้ามาควบคุมคดี โดยมี ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง

นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า ดช.ฟิล์ม ได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กวม 661 มาที่บริเวณแยกในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม และถูกรถยนต์สองแถวรับจ้าง หมายเลขทะเบียน 10-1392 นครพนม เฉี่ยวชนล้มและล้อรถสองแถวทับที่ศีรษะของ ด.ช.ฟิล์มเสียชีวิต ต่อมาคนขับรถสองแถวหลบหนีไป แต่พนักงานสอบสวน และ ผกก.สภ.เมืองนครพนม ก็ยังไม่ดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ ทั้งๆ ที่มีประจักษ์พยานยืนยันตัวผู้ต้องหาถึง 3 คนด้วยกัน ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม ได้มีส่งศพไปชันสูตรที่ รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น แพทย์สรุปว่า ศีรษะผู้เสียชีวิตถูกทับจนกระโหลกแตกเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

นายธีรวัฒน์ กล่าวว่า ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้ขอให้ส่งภาพถ่ายการเสียชีวิตของนายคฑาทรัพย์ไปยัง รพ.ตำรวจให้ทำการตรวจซ้ำครั้งที่สอง ซึ่งแพทย์มีความเห็นสอดคล้องกับครั้งแรก แต่เพิ่มเติมคือพบรอยล้อรถบนใบหน้าของผู้ตาย และพนักงานสอบสวน ได้ขอส่งภาพถ่ายการเสียชีวิตไปทำการตรวจสอบที่ รพ.นครพนม ซ้ำเป็นครั้งที่สาม แต่ปรากฏว่าครั้งนี้แพทย์มีความเห็นแตกต่างจาก 2 ครั้งแรก โดยระบุในทำนองว่าเด็กล้มเอง ไม่ได้เกิดจากวัตถุที่มีน้ำหนักมากดทับที่ศีรษะอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายแต่อย่างใด

พ่อเด็ก16ร้อง ผบ.ตร. ลูกถูกสองแถวทับดับ พงส.แจ้งข้อหาคู่กรณีเบา-สั่งไม่ฟ้อง

“ขอตั้งข้อสังเกตว่า มีความผิดปกติในคดี คือ ตำรวจชุดดังกล่าวจะส่งผลการตรวจซ้ำๆ ถึง 3-4 ครั้ง โดยใช้เฉพาะภาพถ่ายการตายไปให้แพทย์ซึ่งไม่ใช่แพทย์นิติเวช หรือแพทย์ผู้ผ่าชันสูตรพลิกศพลงความเห็น เพื่อนำหลักฐานมาใช้หักล้างการผ่าชันสูตรพลิกศพครั้งแรก ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนในกระบวนการยุติธรรม” ทนายความกล่าว

ขณะที่ นายเทพ กล่าวว่า บุตรชายเสียชีวิตนาน 8 เดือนแล้ว แต่ครอบครัวก็ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ตั้งข้อกล่าวหาคู่กรณีในฐานประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหายเท่านั้น แต่สั่งไม่ฟ้อง และไม่มีการแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จึงทำให้คนร้ายยังไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งตนเคยสอบถามสาเหตุที่แท้จริงกับตำรวจแต่ไม่เคยได้รับคำตอบ

ด้าน ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ขณะนี้ครอบครัวผู้เสียหายยังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเสียชีวิตของบุตรชายและยังไม่สามารถดำเนินคดีกับคนร้ายได้ ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาคู่กรณีในความผิดฐานประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย และไม่ได้สั่งฟ้อง และยังไม่ได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ กระทรวงยุติธรรมจะช่วยแสวงหาหลักฐานเพิ่มเติมให้ และจะประสานสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ช่วยตรวจสอบซ้ำสาเหตุการตายอีกครั้ง เนื่องจากผลการชันสูตรของโรงพยาบาลทั้ง 3 แห่งยังไม่ชัดเจน รวมทั้งจะดูแลเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและหากมีปัญหาถูกถูกข่มขู่จะมอบหมายให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ ช่วยดูแลต่อไป.