จากกรณีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานฯ เขาแหลม จ.กาญจนบุรี นายคฑาวุธ (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน เสียชีวิต และนายภาคภูมิ (สงวนนามสกุล) ได้รับบาดเจ็บ อยู่กลางป่าลึกเขตรอยต่อเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรภาคตะวันตก หมู่ 3 บ้านพุเย ต.ชะและ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี หลังเดินทางเข้าป่าไปติดตั้งกล้องดูสัตว์ป่า (เสือ) โดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ประสาน เฮลิคอปเตอร์ทหาร พร้อมกับนำกำลังเดินทางเข้าป่านำร่างผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บออกจากป่าลึกแต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากสภาพป่าไม่อำนวย และยังไม่สามารถนำตัวออกมาได้ ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
หน.อุทยานฯเขาแหลมเผยยังไม่รู้ปม เจ้าหน้าที่แทงเพื่อนเจ็บก่อนยิงตัวเองดับ!
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 27 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ต.ปรังผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์เข้าพื้นที่ ปฏิบัติภารกิจขนย้ายร่างผู้เสียชีวิตอีกครั้ง โดยวันนี้อุปสรรคสำคัญยังคงเป็นเรื่องของสภาพอากาศเป็นป่าดงดิบมีต้นไม้หนาทึบ ประกอบกับกระแสลมแรง และผันผวนตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีลงจอดแบบแตะขอนไม้ และสามารถนำศพขึ้นเฮลิคอปเตอร์นำศพออกมาบริเวณจุดชมวิวป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ซึ่งเป็นกองอำนวยการ ระยะทางห่างจากจุดเกิดเหตุ 16 กิโลเมตร ได้สำเร็จ โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ทองผาภูมิ เข้าพิสูจน์ศพเบื้องต้นพบมีบาดแผลถูกกระสุนบริเวณคอด้านขวา ก่อนนำตัวส่งนิติเวช รพ.ตำรวจ ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าของบรรดาญาติและเพื่อนร่วมงาน ที่มารอจำนวนมาก ส่วน นายภาคภูมิ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่นำตัวออกมาตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (26 พ.ย.) อยู่ระหว่างรักษาตัวที่ รพ.ทองผาภูมิ อาการปลอดภัยดี
จากนั้น พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.กองกำลังสุรสี/ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.เฉพาะกิจลาดหญ้า นำเฮลิคอปเตอร์มาช่วยอีก 1 ลำ บรรจุ 25 คน จากชุดปฏิบัติการกองทัพบกกองกำลังสุรสี ร่วมประชุมวางแผนกับนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ เขาแหลม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อาทิ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 7 ก่อนแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด เข้าไปตรวจสอบเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำผู้บาดเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
