เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าจากกรณีปรากฏคลิปในสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้ชายแต่งกายคล้ายพนักงานส่งอาหารได้เข้ามาต่อว่าด่าทอ ก่อนลงมือทำร้ายร่างกายเด็กหญิง มีการตบตี ปาแก้วน้ำใส่ และใช้เท้าถีบจนตกเก้าอี้ หลังจากนั้นจึงยกเก้าอี้ทุ่มใส่เด็กหญิงซ้ำอีกครั้งนั้น

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ในปัจจุบันตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ จะเห็นได้ว่ามีการทำร้ายร่างกายเด็กและเยาวชนอย่างรุนแรง และบ่อยครั้งจะเป็นคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด โดยส่งผลให้เด็กที่ถูกทำร้ายบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งจะเป็นปัญหาในระยะยาว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการแก้ปัญหาเด็กและสตรีที่ถูกกระทำโดยใช้ความรุนแรง จึงได้กำชับไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบการกระทำผิดให้เร่งสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างรวดเร็วและได้เล็งเห็นถึงปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้จัดตั้งศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ซึ่งมีหน้าที่ดำเนินการปฏิบัติภารกิจพิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว อย่างเร่งด่วนและทันต่อเหตุการณ์ โดยมี พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์

ไรเดอร์โหดตบทุบตีถีบลูกสาววัย14คว่ำยกเก้าอี้ทุ่มซ้ำ รอแม่มาดำเนินคดี

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้ปกครองของน้องได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้กระทำความผิดแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงอยากเตือนว่าการกระทำดังกล่าวนั้นอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 297 ผู้ใด กระทำความผิด ฐานทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ ผู้ถูกกระทำร้าย “รับอันตรายสาหัส” ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี

มาตรา 298 ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา 297 ถ้าความผิดนั้นมีลักษณะประการหนึ่งประการใดดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 289 เช่น การกระทำโดย “ทรมาน” หรือกระทำโดย “ทารุณโหดร้าย” ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 ปี ถึง10 ปี และปรับตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 200,000 บาท

อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว พ.ศ. 2562 ระบุไว้ว่าหากท่านใดพบเห็นหรือทราบว่ามีการกระทำความรุนแรงในครอบครัว ให้แจ้งข้อมูล หรือข่าวสารกรณีดังกล่าวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การคุ้มครองสวัสดิภาพ และหากพนักงานเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดำเนินการช่วยเหลือตาม พ.ร.บ.ฯ ดังกล่าวนี้แล้ว “ผู้ที่ประสงค์ร้าย” และ “ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่” ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความห่วงใยกับพี่น้องประชาชน ขอให้ช่วยกันสอดส่องดูแลบุตรหลานของท่าน หากท่านพบเห็นการกระทำความรุนแรงในครอบครัว หรือพบเห็นการกระทำความผิด ขอให้ท่านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือ โทรฯ สายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด24 ชั่วโมง.