กรณี น.ส.พัชราภา หรือน้องหญิง เกรัมย์ อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขานิติศาสตร์ ปี 4 ถูกภรรยาทนายความ ขับรถเบนซ์ชนจนเสียชีวิต บริเวณก่อนถึงทางกลับรถบ้านสองชั้น ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.64 ที่ผ่านมา โดยคนขับรถเบนซ์ ได้เยียวยาผู้เสียหายเบื้องต้น 220,000 บาท และยังจะได้เงินเยียวยาจากบริษัทประกันภัย ที่รถเบนซ์ทำไว้อีก 2.5 ล้านบาท แต่บริษัทได้ปฏิเสธการจ่าย อ้างเป็นการประมาทร่วม

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยกู้ชีพและชาวบ้าน ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ต่างออกมาแสดงความไม่พอใจบริษัทประกันภัย ที่ประวิงเวลาการจ่ายเงินสินไหมทดแทนให้กับ น.ส.พัชราภา ที่เสียชีวิต

นายพินิจ กอนรัมย์ อายุ 57 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลตำบลสองชั้น อ.กระสัง กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนอยู่ในป้อมกู้ชีพ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุตนมองไปถนนฝั่งตรงข้าง ไม่เห็นมีรถมารอออกจากซอย เมื่อหันหน้ากลับ ได้ยินเสียงโครม จึงวิ่งออกไปดู พบร่างของน้องหญิงนอนอยู่ใต้ท้องรถเบนซ์ จึงตรวจอาการเบื้องต้น พบว่าน้องไม่มีชีพจรแล้ว จึงรีบนำร่างส่งโรงพยาบาลกระสัง

พ่อแม่ ‘น้องหญิง’ เหยื่อประกันเบี้ยวจ่าย ขอความเป็นธรรม ‘อัยการจังหวัด’

นายพินิจ กล่าวต่อว่า จากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่ออกมารอกดเงินเบี้ยคนชราจากตู้ ATM ที่อยู่ข้างป้อมกู้ชีพ หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารถทั้งสองคันวิ่งตามกันมา และเห็นรถเบนซ์ชนรถน้องอย่างจัง แต่ชนแฉลบด้านข้างขวาของรถน้องหญิง เหตุการณ์นี้รู้สึกเสียใจแทนครอบครัวของน้อง ที่ถูกประวิงเวลาการจ่ายเงินสินไหม

ด้าน นายวันทวี นันทเส อายุ 49 ปี  กล่าวว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่ใช้บริการประกันชั้น 1 พอมาเห็นเคสนี้แล้ว รู้สึกหดหู่ใจ เพราะผู้ซื้อประกันก็อยากให้มีความคุ้มครอง เพื่อให้ผู้ซื้อประกันอุ่นใจ บริษัทประกันควรจะจ่ายค่าสินไหมให้ตามกติกา ตอนนี้มีชาวบ้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก และเห็นใจพ่อแม่น้องหญิง ที่นอกจากจะสูญเสียลูกสาวไปแล้ว ยังต้องพะวงว่าจะกลายมาเป็นผู้ต้องหาอีกหรือไม่