เมื่อที่ 5 ธ.ค. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า กองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับแจ้งจากมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ว่า ได้รับการร้องขอจากพลเมืองดีให้ช่วยเหลือหญิงสาวชาวเมียนมาซึ่งถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านผกามาศ ซอย 11 แขวง/เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ จึงมอบหมายให้ พ.ต.ต.สิริวิชญ์ ชาญเตชะสิทธิ์กุล ผอ.กองคดีการค้ามนุษย์ นำพนักงานสอบสวนลงพื้นที่ปฏิบัติการให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยใช้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 มาตรา 27 (4) ร่วมกับมูลนิธิ LPN และ IJM ให้การช่วยเหลือดังกล่าว ทันทีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางไปถึง พบ น.ส.วิน (นามสมมุติ) สัญชาติเมียนมา อายุ 26 ปี อยู่ในสภาพอิดโรย หวาดกลัว และร้องขอความช่วยเหลือให้พาตัวออกไปอย่างเร็วที่สุด

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้น น.ส.วิน ให้การว่าถูกนำตัวมาทำงานเป็นคนรับใช้นานกว่า 13 ปี โดยไม่รู้วันเดือนปี และไม่เคยได้รับเงินเดือน จึงมีเหตุอันควรเชื่อว่าเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยถูกแสวงประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงาน เอาคนลงเป็นทาส หรือมีลักษณะคล้ายทาส หรือกระทำการอื่นใดเป็นการขูดรีดบุคคล จึงได้ร่วมกันให้การช่วยเหลือ โดยนำตัวผู้เสียหายไปรับการคุ้มครองเพื่อฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจ และจัดให้มีระยะเวลาเพียงพอที่จะคลายความวิตกกังวลและหายหวาดกลัว ตลอดจนให้ได้รับการบริการของรัฐและภาคเอกชนที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ รวมทั้งได้รับการตรวจร่างกาย ซึ่งเป็นไปตามหลักการ victim centric approach เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เสียหายมีความพร้อมก่อนจะร่วมกับทีมสหวิชาชีพ สัมภาษณ์ คัดแยกตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 เพื่อดำเนินการคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องต่อไป

กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความมุ่งมั่นในการสืบสวน สอบสวน ป้องกันและปราบปรามคดีด้านการค้ามนุษย์อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สามารถแจ้งมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 128 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ หรือทางสายด่วน 1202 (โทร.ฟรีทั่วประเทศ) โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ.