เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง ลงนามคำสั่งเทศบาลนครตรัง ที่ 1447/2564 ลงวันที่ 29 พ.ย. ลงโทษไล่ออกจากราชการ นายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง พนักงานเทศบาล ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคมเทศบาลนครตรัง (นักบริหารงานสวัสดิการสังคม ระดับกลาง) เนื่องจากได้กระทำผิดวินัย กรณีนำรถยนต์ส่วนกลางของทางราชการหมายเลขทะเบียน กง 5459 ตรัง ไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวและเบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในการใช้รถยนต์คันดังกล่าวจากทางราชการโดยมิชอบ ตั้งแต่เดือน ต.ค.52 ถึง พ.ค.59

เป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือบุคคลอื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจไม่ปฏิบัติกฎหมาย กฎ ระเบียบ ของทางราชการมติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงตามข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 5 วรรคสอง และข้อ 6 วรรคสองแห่งประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลนครตรัง เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวนการลงโทษทางวินัย และคณะกรรมการพนักงานเทศบาลนครตรังในการประชุมครั้งที่ 10/2564 วันที่ 26 ต.ค. มีมติให้ลงโทษไล่ออก นายรณรงค์ ออกจากราชการ อาศัยอำนาจตามมาตรา 15 มาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น และข้อ 85 แห่งประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลนครตรัง เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวนการลงโทษทางวินัย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหาในกรณีดังกล่าวมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 72/2564 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 9 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า นายรณรงค์ ได้ใช้อำนาจครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว เพื่อประโยชน์ของตนเองโดยมิชอบแล้วนำรถไปใช้เป็นพาหนะในการเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านพัก กับสำนักงานเทศบาลนครตรังเป็นประจำทุกวัน เดินทางไปร่วมงานสังคมต่างๆ เช่น งานศพ งานบวช งานแต่งงาน และงานประเพณีต่างๆ และเดินทางไปบ้านของมารดาของภรรยานายรณรงค์ ที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง บ่อยครั้ง เสมือนว่าเป็นรถส่วนบุคคล และในการใช้รถยนต์คันดังกล่าวได้เบิกจ่ายเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิงจากเทศบาลนครตรังทุกครั้งเดือนละประมาณ 100 ลิตร อันเป็นการเบียดบังน้ำมันเชื้อเพลิงของเทศบาลนครตรัง รวมทั้งได้นำรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดเก็บรักษาไว้ที่บ้านพักของตนเองตลอดมาโดยไม่มีเหตุผลความจำเป็น และไม่มีขออนุญาตจากนายกเทศมนตรีนครตรังเพื่อประโยชน์ของตนเอง  

การกระทำของนายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง ผู้ถูกกล่าวหา ยังคงมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริตหรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐเทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งฯ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 127/1 ประกอบ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา192 และมีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรงฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ฯ

ฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง และฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการมติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงตามประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดตรัง เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 5 วรรคสอง และข้อ 6 วรรคสอง และประกาศคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดตรัง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวนการลงโทษทางวินัย ข้อ 10 วรรคสอง

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ได้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งรายงานสำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณาโทษทางวินัยกับนายรณรงค์ทรัพย์ปรุงตามฐานความผิดดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 91 (1) และ (2) แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งเทศบาลนครตรังดำเนินการทางละเมิดกับนายรณรงค์ ทรัพย์ปรุง เพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไปด้วย