“บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักแบดมินตันทีมชาติไทย ประเภทคู่ผสม ที่สร้างประวัติศาสตร์กวาดแชมป์ระดับเวิลด์ทัวร์ 4 รายการติดต่อกัน รวมเป็นแชมป์ที่ 7 ในปีนี้ พร้อมผงาดครองคู่มืออันดับ 1 ของโลก เปิดเผยร่วมกันว่า การขึ้นเป็นมืออันดับ 1 ของโลก ถือว่าเป็นผลพลอยได้เพราะถ้าเราเข้าชิงชนะเลิศและได้แชมป์ อันดับโลกก็จะขยับขึ้นเรื่อยๆ และไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรเมื่อลงแข่งขันในฐานะมือ 1 ของโลก โดยจะพยายามโฟกัสที่แผนการเล่นและรูปแบบการเล่นเท่านั้น

เดชาพล กล่าวว่า หลังจากจบศึกโอลิมปิกเกมส์ 2020 คิดว่าตนเองมีพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านร่างกาย จิตใจ และทักษะกีฬาแบดมินตัน ขณะที่ ทรัพย์สิรี กล่าวว่า แม้จะลงแข่งขันต่อเนื่องมาเกือบ 3 เดือน แต่ก็ไม่รู้สึกล้า ไม่เคยท้อ หรือถอดใจแต่อย่างใด พยายามทำเต็มที่ทุกแมตช์

“เจ้าบาส” ยังเสริมอีกว่า หากรู้สึกเริ่มเหนื่อยเราก็จะพูดคุยกันในสนาม ถ้าใครเหนื่อยก็จะเล่นเกมให้ช้าลง ส่วนสภาพร่างกายและจิตใจตอนนี้หลังจากได้ 3 แชมป์ต่อเนื่องที่อินโดนีเซีย ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นเพราะรูปแบบการเล่นที่เตรียมมาสามารถนำมาใช้ได้จริง และจะพยายามทำผลงานให้ดีในแมตช์ต่อๆ ไป

สำหรับ “บาส-ปอป้อ” รวมทั้งนักแบดมินตันไทย มือระดับท็อปของโลก อาทิ “เมย์” รัชนก อินทนนท์, “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์, “ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์, “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์, “กัน” กันตภณ หวังเจริญ จะลงแข่งขันรายการส่งท้ายปี ในศึกแบดมินตันชิงแชมป์โลก “เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2021” ที่ประเทศสเปน ระหว่างวันที่ 12-19 ธ.ค.นี้