เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ รพ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช พ่อแม่ พร้อมด้วยญาติๆ ของ ด.ช.มอส (นามสมมุติ) วัย 12 ขวบ ได้เดินทางมารับศพ หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 1ธ.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ

โดยพ่อแม่ของ ด.ช.มอส เปิดเผยด้วยน้ำตานองใบหน้า ว่า น้องมอส เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ได้พาน้องมอส ไปเข้ารับการฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์เข็ม 2 ในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จนกระทั่งผ่านมาวันที่ 6 ธ.ค. น้องมอสเริ่มมีอาการหายใจติดขัด และในวันที่ 8 ธ.ค. จึงพาไปตรวจที่ รพ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งแพทย์ได้ทำการสแกนคลื่นหัวใจก่อนนำเข้าห้องไอซียู นอนพักรักษาห้องไอซียู 2 คืน อาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ จนเช้าวันที่10 ธ.ค. แพทย์และพยาบาลต้องปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ทางแพทย์ รพ.ร่อนพิบูลย์ ได้แนะนำส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.มอ.สงขลา เพราะอาการไม่ดีขึ้นแต่กลับทรุดหนักลงเรื่อยๆ แต่สุดท้ายยังไม่ทันได้ส่งต่อไปยัง รพ.มอ. น้องมอส ได้เสียชีวิตในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางความเสียใจของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง

พ่อแม่ ด.ช.มอส เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตเพราะผลกระทบจากการเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 2 อย่างแน่นอน จึงอยากจะเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสาเหตุการเสียชีวิตและแสดงความรับผิดชอบต่อการสูญเสียครั้งใหญ่ของครอบครัวน้องมอสในครั้งนี้

ทั้งนี้ เพื่อนบ้านที่มาช่วยจัดการเรื่องงานศพต่างจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าสาเหตุที่น้องมอสเสียชีวิตมาจากการเข้ารับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน.