นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38 หรือ มอเตอร์เอ็กซ์โป  เปิดเผยว่า วันที่ 12 ธ.ค.เป็นวันสุดท้ายของงานมอเตอร์เอ็กซ์โปซึ่ง ในช่วง 12 วันที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างคึกคัก และมียอดจองรถยนต์ตัวเลขล่าสุดประมาณ 25,000 คัน และสิ้นสุดงานเวลา 22.00น. วันนี้คาดว่าจะมียอดจองตามเป้าหมายที่วางไว้ 30,000 คัน และมีเงินสะพัดกว่า 35,000 ล้านบาท ส่วนผู้ชมงานไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน โดยรถที่ได้รับความสนใจภายในงานมีทั้งรถยนต์ และจักรยานยนต์ที่เปิดตัวใหม่ๆ รวมไปถึงรถไฟฟ้า ซึ่งมียอดจองสูงกว่าที่ประเมินไว้

ทั้งนี้ในวันหยุดผู้เข้าชมงานจะมากกว่าปกติ 100% ส่วนวันนี้วันสุดท้านเพิ่มถึง 200% ส่วนยอดจองรถนั้น ก็เช่นเดียวกัน วันปกติจะมียอดจองกว่า 1,000คัน วันหยุดเพิ่มเป็น 2,000เกือบ 3,000 คัน และวันสุดท้ายก็เพิ่มมากกว่า 2 เท่าตัว

การที่มีผู้ชมเข้างานอย่างคึกคัก เนื่องจากภายในงานได้วางมาตรการอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด -19 โดยผู้ชมงานต้องได้รับวัคซีนแล้ว 2 เข็ม หรือผ่านการตรวจ RT-PCR หรือ ATK ภายใน 72 ชั่วโมง มิเช่นนั้นต้องรับการตรวจ ATK หน้างาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากโรงพยาบาลบางประกอก 9  มีค่าใช้จ่ายเพียง 99 บาทต่อคน ซึ่งจะเป็นใครก็ได้เข้ามาตรวจโดยที่ไม่ต้องเข้าชมงาน  เพราะเราส่งเสริม และป้องกันการแพร่ระบาดโควิค-19 อยู่แล้ว ซึ่งทางภาครัฐที่ดูแลส่วนนี้ได้เข้ามาเยี่ยมชม ในงานมองว่ามาตรการฯดังกล่าวที่เราได้ดำเนินการมีความเข้มข้นอย่างมาก เกินที่รัฐได้กำหนดไว้ ส่วนนี้เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้จัดงาน และผู้ชมงานมีความมั่นใจอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยอดจองรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ล่าสุดอย่างเป็นทางการในประกาศเวปไซต์งานมอเตอร์เอ็กซ์โปถึงวันที่ 10 ธ.ค. รถยนต์มียอดจอง 21,119 คัน อันดับต้นๆ  คือ โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ มาสด้า มิตซูบิชิ 1, ส่วนรถจักรยานยนต์มียอดจองรวม 2,349 คัน ค่ายที่มีการจองเป็นอันดับต้นๆ คือ ยามาฮ่า รอยัลเอนฟิลด์ คาวาซากิ ฮาร์เลย์เดวิดสัน ส่วนรถหรู ทั้งแอสตันมาร์ติน โลตัส มาเซราติ มียอดจองเข้ามา ส่วน ปอร์เช่มี ด้านเมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู  เลกซัส มินิ.