จากกรณีพระเทพปฏิภาณวาที หรือ ‘เจ้าคุณพิพิธ’ วัดสุทัศนเทพวราราม ระบุว่า ขณะนี้เกิดความไม่สบายใจในหมู่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ ต่อกรณีที่พระภิกษุบางรูปลาสิกขาบทแล้ว กลับมาทำลายคณะสงฆ์และพระพุทธศาสนาโดยการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งประเด็นการสร้างวัตถุมงคลและตำแหน่งของพระสงฆ์ ซึ่งทำให้พระเถระเกิดความเครียด จึงฝากมาเตือนผู้ที่กระทำการดังกล่าวให้ยุติ อย่าลืมว่าเติบโตมาจากไหน เวลาจะวิจารณ์คณะสงฆ์ จะต้องมีมโนธรรมสำนึกว่าเราเติบโตมาในพระบารมีของพระพุทธเจ้า

วัดต่างๆซึ่งเป็นสำนักใหญ่ๆก็ล้วนแล้วแต่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีการจำลองพระพุทธรูปมา ท่านเจ้าอาวาสก็สร้างวัตถุมงคลก็ได้เงินมาเลี้ยงพระเณร เมื่อพระเณรมากขึ้นก็ต้องหาให้อยู่ ให้ฉัน สร้างอาคาร สร้างกุฏิให้อยู่ ต้องรู้สึกตัวว่าจะตอบแทนคุณของวัดและพระพุทธศาสนาอย่างไร อยากจะขอเตือนจิต ให้มีความสำนึกว่าถ้าไม่มีคณะสงฆ์วันนั้นจะไม่มีตัวเราวันนี้ อย่าทำตัวป็นเทวทัตน้อย และพระอุทายีในยุคปัจจุบัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระดัง กล่าวว่า พระเดี๋ยวนี้ กล้ายกตัวเองเทียบพระพุทธเจ้าเลยหรอครับ กล้าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของความดีงามแห่งพระศาสนาเลยหรอครับ ว่าคนอื่นเป็นพระเทวทัต ระวังมันจะย้อนเข้าตัวนะครับ ประเภทว่าเป็นอลัชชี แบ่งก๊กแบ่งพวก ศีลก็ไม่บริสุทธิ์โสภณ แถมยังถือครองจีวร อย่างหน้าชื่นตาบานร่วมสังฆกรรมอยู่ในสังฆะ ระวังนะครับ บาปกรรมมีจริง ผมขอเตือนในฐานะอุบาสก ผมไม่เนรคุณพระศาสนานะครับ และยังเคารพกราบไหว้ภิกษุ (บางรูป) ที่ควรแก้การกราบไหว้เคารพ

อนึ่ง ผมอยากฝากคณะสงฆ์ด้วยว่า อย่าเนรคุณข้าวแดงแกงถุงของชาวบ้านนะครับ เพราะสังฆะแท้จริงแล้ว อยู่ได้ด้วยความศรัทธาปสาทะของชาวบ้าน อ่อ แต่ถ้าท่านมีค่าตัวแพง และไม่เคยตื่นเช้าออกบิณฑบาต ก็แล้วไป เพราะท่านอาจไม่ต้องสนใจเรื่องนี้เท่าไหร่

ปล. ฉันข้าวหรือฉันปูนครับ ดูร้อนท้องแปลกๆ