สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ว่า นพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นไอเอไอดี) และที่ปรึกษาด้านนโยบายสาธารณสุขของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ ว่า “ปัญหาใหญ่ที่แท้จริง” ของระบบสาธารณสุขสหรัฐ คือการมีประชาชนจำนวนมากซึ่งมีโอกาสเข้าถึงวัคซีน แต่กลับปฏิเสธไม่ยอมรับวัคซีน อ้างอิงตามสถิติของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ที่ระบุว่า 27% ของชาวอเมริกันยังไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แม้แต่เข็มเดียว
“This is really something to be reckoned with.”
— ABC News (@ABC) December 19, 2021
Dr. Anthony Fauci tells @jonkarl that omicron “seems to be overtaking all the other variants, including delta.” https://t.co/Xb9u0DU35E pic.twitter.com/b17plHwdCb
“At least 43 states now have confirmed cases of the latest and, by far, most contagious variant yet.”@jonkarl has the latest updates on COVID-19 as the omicron variant spreads across the country. https://t.co/DLq8fPPZ02 pic.twitter.com/mYQ8mftHjZ
— This Week (@ThisWeekABC) December 19, 2021
นพ.เฟาซีกล่าวต่อไปว่า โลกเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 มานานเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมายังคงเป็นเรื่องที่สามารถเตือนทุกฝ่ายได้เป็นอย่างดี ว่าเชื้อโรคตัวนี้ “คาดการณ์ยาก” เกี่ยวกับการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ตัวล่าสุด “โอไมครอน” นพ.เฟาซีกล่าวว่า ผลการถอดรหัสพันธุกรรมจากห้องปฏิบัติการ โดยสุ่มตัวอย่างเจาะจงจากบางพื้นที่ในสหรัฐ ปรากฏว่า 50% เป็นเชื้อโอไมครอน ส่งสัญญาณว่า เชื้อตัวนี้กำลังจะเข้ามาแทนที่เชื้อเดลตา
Dr. Francis Collins, the head of the National Institutes of Health, says Americans who are fully vaccinated and boosted are "very well protected" from Omicron. For Americans who haven't gotten a booster, "this is the week to do it," he says pic.twitter.com/TvnSm70xXh
— Face The Nation (@FaceTheNation) December 19, 2021
ขณะที่ นพ.ฟรานซิส คอลลินส์ ผู้อำนวยการสถาบันสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (เอ็นไอเอช) กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโอไมครอนในสหรัฐจะเพิ่มแบบก้าวกระโดด ภายในอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ข้างหน้า จากปัจจุบันซึ่งมีการยืนยันผู้ติดเชื้อแล้วใน 43 รัฐ จึงขอให้ประชาชนเร่งรับวัคซีนเมื่อถึงกำหนด รวมถึงการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นด้วย เพราะการฉีดวัคซีนตั้งต้นเป็นพื้นฐานและการกระตุ้น สามารถบรรเทาความเสี่ยงของการป่วยหนักจากเชื้อโอไมครอนได้
นอกจากนี้ การรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล หลีกเลี่ยงการรวมตัวโดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ยังคงเป็นสิ่งสำคัญซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติจนเป็นนิสัย.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES