เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี นำโดย พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ปัตตานี พร้อม พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สนธิกำลังร่วม 50 นาย ปิดล้อมตรวจค้น บ้านเลขที่ 55 หมู่ 3 บ้านเขาดิน ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี หลังสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุรุนแรง กลุ่มนายมาหามะ สะอิ แกนนำระดับปฏิบัติการณ์ มีหมายจับคดีความมั่นคงหลายคดี เข้ามาหลบซ่อนตัว เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังไปปิดล้อม พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ก่อนเรียกคนในบ้านให้ออกมา ทำให้คนในบ้าน 4 คน วิ่งออกมาโดย 1 ในนั้นมีเจ้าของบ้าน อายุ 50 ปี รวมอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ยังมีชายฉกรรจ์ 2 คน อยู่ในบ้าน ขณะที่อีกรายหนึ่งที่ออกมาระบุว่า ชายทั้งสองในบ้าน ไม่มีใครรู้จักอ้างว่ามีคนฝากให้มาอาศัยชั่วคราว

เจ้าหน้าที่จึงเชิญผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัว นานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล จึงเริ่มปฏิบัติการณ์กดดันใช้แก๊สน้ำตายิงเข้าไป แต่คนร้ายก็ไม่ยอมออกมาและยิงตอบโต้ จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นระยะ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการณ์จู่โจม 7 นาย นำโล่กำบังบุกเข้าไป แต่ถูกคนร้ายยิงใส่เป็นระยะไม่สามารถเข้าไปได้ ขณะที่การเจรจายังคงเรียกให้คนร้ายทั้งสองคนออกมามอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่งเวลา 22.22 น. หลังการปะทะยืดเยื้อมาร่วม 6 ชั่วโมง ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปเคลียร์พื้นที่ในบ้านได้ ตรวจสอบเบื้องต้นพบคนร้ายถูกกระสุนจากเหตุปะทะเสียชีวิต 2 ราย พบอาวุธปืน 2 กระบอก และ อุปกรณ์ภาคสนาม จึงเก็บบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนศพทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่นำไปตรวจชันสูตรพลิกศพ พร้อมเก็บหลักฐานลายนิ้วมือที่ รพ.ทุ่งยางแดง ไว้เป็นหลักฐานพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ปัตตานี เปิดเผยว่า การปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการติดตามไล่ล่ากลุ่มก่อความไม่สงบระดับแกนนำซึ่งก่อนหน้านี้ชุดการข่าวได้รับรายงานจากสายข่าวว่า มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายเข้ามาในพื้นที่เตรียมก่อเหตุร้าย หน่วยกำลังจึงประสานไปยังผู้นำในพื้นที่ให้ตรวจสอบกระทั่งได้รับแจ้ง จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมหวังที่จะจับกุมเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียของทั้งสองฝ่าย ซึ่งการปฏิบัติการณ์ครั้งนี้ยึดหลักจากเบาไปหาหนัก โดยการเจรจา ซึ่งเป็นนโยบายหลักของแม่ทัพภาคที่ 4 และยังคงใช้หลักกดดันให้คนร้ายออกมามอบตัว แต่หากมีการต่อสู้เจ้าหน้าที่ก็ต้องป้องกันตนเองโดยการตอบโต้ อย่างไรก็ตาม หลังการปะทะ ได้วางมาตราการณ์คุมเข้มสถานที่ราชการ แหล่งชุมชนต่างๆ และเพิ่มความปลอดภัยพื้นที่เสี่ยง เส้นทางต่างๆ ป้องกันกลุ่มก่อความไม่สงบ สร้างสถานการณ์ ก่อกวน ตอบโต้ แก้แค้น ต่อไป