สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ว่าสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) ซึ่งเป็นกองกำลังชาติพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของเมียนมา ออกแถลงการณ์เรียกร้องความสนับสนุนจากประชาคมโลก ให้มีการกำหนด “เขตห้ามบิน” ตามแนวพรมแดนทางตะวันออกของเมียนมา ซึ่งติดกับภูมิภาคบางส่วนของไทย
เคเอ็นยูอ้างว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมา ไม่ได้มุ่งเฉพาะเป้าหมายทางทหาร แต่ยังโจมตีสถานที่ซึ่งในทางสงครามเรียกว่า “เป้าหมายอ่อน” เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล และชุมชนที่อยู่อาศัยของพลเรือน ทั้งนี้ การกำหนดเขตห้ามบินด้วยเหตุผลทางยุทธวิธี “ให้มีผลผูกพันตามกฎหมายระหว่างประเทศ” ต้องประกาศโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เท่านั้น ทว่าในยามสู้รบหลายต่อหลายครั้ง บรรดาประเทศมหาอำนาจมักกำหนดเขตห้ามบินกันเอง
ขณะที่กองทัพเมียนมา และสำนักงานเลขาธิการของรัฐบาลทหาร ในกรุงเนปิดอว์ ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการต่อการเรียกร้องของเคเอ็นยู ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์สู้รบระลอกใหม่ในรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นสมรภูมิดุเดือดที่สุดแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยการสู้รบในสัปดาห์นี้ ส่งผลให้ประชาชนมากกว่า 3,000 คน อพยพข้ามพรมแดนธรรมชาติ คือแม่น้ำสาละวิน มาขอหลบภัยในฝั่งไทยเป็นการชั่วคราว.
เครดิตภาพ : AP