เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ลงนามไล่ออกจากราชการครูและผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 65 คน ใน 50 โรงเรียนพื้นที่ จ.นครราชสีมา เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดครูและผู้บริหารโรงเรียนร่วมกันทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียน เมื่อปี 2555 มาแล้ว ซึ่งตามกฎหมายเมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดมา สพฐ.ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดจะต้องดำเนินการลงโทษทางวินัยทันที ซึ่งในประเด็นการลงโทษทางวินัยกับครูและผู้บริหารจำนวน 65 คนนั้น ก่อนที่ สพฐ.จะออกคำสั่งได้ทำหนังสือขอความเห็นไปที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าจะมีครูกลุ่มไหนลงโทษทางวินัยได้หรือไม่ได้บ้าง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งหนังสือตอบกลับมาว่า หากครูคนใดที่ออกจากราชการไปแล้วเกินกว่า 3 ปี สพฐ.ไม่สามารถออกคำสั่งลงโทษทางวินัยได้ โดยในจำนวนดังกล่าวมีครูที่ไม่โดนลงโทษทางวินัยตามโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลมีอยู่ประมาณหลักสิบคนเท่านั้น ซึ่งตนจำข้อมูลตัวเลขทั้งหมดไม่ได้ ทั้งนี้หากครูคนใดที่ต้องการจะยื่นอุทธรณ์ สพฐ.ก็พร้อมอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารและหลักฐานประกอบการพิจารณาอย่างเต็มที่ เพราะเป็นสิทธิที่ครูจะต้องได้รับ

“สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการประมูลการแบบ e-Auction เราได้รับเสียงสะท้อนจากครูในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กที่มีครูบรรจุใหม่และต้องรับหน้าที่เป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุและการจัดซื้อจัดจ้างของโรงเรียน โดยหากเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยงสามารถร้องขอมาที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ช่วยดำเนินการให้ได้ เพราะเขตพื้นที่จะมีเจ้าหน้าที่พัสดุที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง รวมถึงเรื่องวิศวกรการก่อสร้างอาคารเรียนหากบุคลากรของโรงเรียนไม่มีความรู้ก็สามารถทำหนังสือขอคำแนะนำจากกลุ่มงานวิศรกรโยธาขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือระดับจังหวัดเข้ามาช่วยดำเนินการให้ได้เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก อย่างไรก็ตาม สพฐ.จะออกหนังสือทำหน้าความเข้าใจในประเด็นการจัดซื้อจัดจ้างให้แก่โรงเรียนรับทราบอีกครั้ง” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว