เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคาร Village post office ซึ่งเป็นอาคารส่วนเก็บเสื้อผ้าคอสเพลย์สำหรับให้พนักงานใส่ในช่วงเทศกาลต่างๆ และไม่มีผู้พักอาศัย ตั้งอยู่ภายในสวนอาหารช็อกโกแลตวิลล์ ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

ล่าสุดเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตคันนายาว เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา ตำรวจ สน.บึงกุ่ม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เดินทางเข้าตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เพื่อหาสาเหตุของต้นเพลิง และดูความแข็งแรงของอาคารโครงสร้าง

ไฟไหม้ร้านดัง ‘ช็อกโกแลต วิลล์’ กลางดึก โชคดีไร้เจ็บ-ตาย เร่งพิสูจน์สาเหตุ

นายบัญชา สืบกระพัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตคันนายาว เปิดเผยหลังจากเข้าไปตรวจสอบโครงสร้างอาคาร ว่า กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ภายในร้าน chocolate ville เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมาโดยเพลิงไหม้ประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่พบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด ช่วงเช้าที่ผ่านมามีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ หน่วยโยธา สำนักงานเขตคันนายาว กองพิสูจน์หลักฐาน และ สน.บึงกุ่ม เข้าร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบโครงสร้างลักษณะที่เกิดเหตุเป็นกลุ่มอาคารเป็นอาคาร 2 ชั้น โดยจุดที่เกิดเหตุเป็นอาคารด้านล่างเป็นที่เก็บอุปกรณ์เกี่ยวกับเครื่องแต่งกายนักแสดงคอสเพลย์ และครัว โครงสร้างหลังคาเหล็กเสียหายเยอะโดยให้ทางผู้ประกอบการทำการรื้อถอนในส่วนที่เป็นอันตราย

ทางเขตได้มีการสั่งให้ระงับในส่วนที่เกิดเหตุบางส่วนที่ไฟไหม้ ทั้งนี้มอบหมายให้ทางวิศวกรเข้ามาตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้าง ต้องรอผล ส่วนจะรื้อถอนหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของทางวิศวกร ในส่วนของตัวอาคารที่เกิดเหตุไม่ส่งผลกระทบกับอาคารบริเวณอื่นรอบข้าง ในส่วนของอาคารอื่นยังไม่พบรอยร้าวหรือความเสียหาย อย่างไรก็ตามต้องให้ทางวิศวกรเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความชัดเจน ในส่วนที่ยังไม่ได้เกิดเหตุสามารถใช้บริการได้ตามปกติ โดยเน้นย้ำเฉพาะบริเวณจุดที่เกิดเหตุที่จะต้องปิดล้อมให้ชัดเจน เพื่อป้องกันและสร้างความปลอดภัย กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากจุดเกิดเหตุไม่มีผู้พักอาศัย

ด้านนายบุญช่วย ล้ำนาค อายุ 44 ปี ผู้ดูแลทั่วไป บ.ช็อกโกแลตวิลล์ จำกัด กล่าวว่า จุดที่เกิดเหตุเป็นบ้านส่วนหน้าข้างหน้าแล้วเก็บชุดคอสตูมเท่านั้น โดยภายในห้องมีเครื่องทำกาแฟ ตู้เย็น และแอร์ 3 ตัว ส่วนสาเหตุเกิดจากอะไรนั้นต้องรอเจ้าหน้าที่สรุปอีกครั้ง โดยค่าเสียหายอยู่ประมาณ 5-6 ล้านบาท ทั้งนี้บริเวณดังกล่าวลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าไปใช้บริการในส่วนนั้น อยากให้ความมั่นใจกับลูกค้าว่าสามารถเข้ามาใช้บริการได้ตามปกติ และไม่มีผลกระทบกับบริเวณที่เป็นส่วนร้านอาหารด้านหน้าแต่อย่างใด โดยตอนนี้ได้รื้อถอนส่วนที่เป็นหลังคาลงมาให้เท่ากับบริเวณแนวปูนชั้นล่าง พร้อมกับยึดเหล็กทำเป็นฉากกั้นเพื่อป้องกันอันตราย และบดบังไม่ให้เห็นสภาพความเสียหายดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว