“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะลงสนามรอบชิงชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” รอบชิงชนะเลิศ พบ อินโดนีเซีย นัด 2 เตะวันที่ 1 ม.ค.65 เวลาไทย 19.30 น. ช่อง 7 HD และ AIS PLAY ถ่ายทอดสด นัดแรกไทยชนะมาก่อน 4-0

สำหรับทีมชาติไทย มาทัวร์นาเมนต์นี้ ได้เกิดสถิติใหม่ขึ้น

  • ธีรศิลป์ แดงดา เป็นผู้นำดาวซัลโวตลอดกาล ยิงไปอีก 4 ประตู รวมแล้ว 19 ประตู แซง นอห์อลัมชาห์ ของสิงคโปร์ ที่ยิง 17 ประตู
  • สกอร์รอบชิงฯ นัดแรก ที่ชนะอินโดนีเซีย 4-0 คือสกอร์ขาดลอยที่สุด สกอร์ขาดลอยก่อนหน้านี้ปี 2000 ไทย ชนะ อินโดนีเซีย 4-1 และปี 2010 รอบชิงฯ นัดแรก มาเลเซีย ชนะ อินโดนีเซีย 3-0

นอกจากนี้ ยังมีสถิติที่กำลังจะเกิดขึ้น

  • ไทยได้แชมป์ไปแล้วมากสุด 5 สมัย ถ้าวันปีใหม่นี้ไม่พลาด ก็จะเพิ่มเป็น 6 สมัยจากการจัด 13 ครั้ง ทิ้ง สิงคโปร์ ที่ได้ 4 สมัย
  • ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นคนเดียวที่ได้นักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์เกิน 1 ครั้ง โดยเจ้าเจได้ไป 2 ครั้ง ปี 2014 และ 2016 ถ้าหนนี้ได้ MVP อีก ก็จะเป็นสมัยที่ 3
  • เช่นเดียวกับ ดาวซัลโว ธีรศิลป์ แดงดา ได้ไปแล้ว 3 ครั้ง (ดาวซัลโวร่วม 1 ครั้ง) มากที่สุด ตอนนี้เขายิง 4 ประตู นำร่วมเท่า ชนาธิป หาก เจ้ามุ้ย ได้ดาวยิงอีก จะเป็นสมัยที่ 4 ซึ่งนอกจากเขาไม่เคยมีใครได้ตำแหน่งนี้เกิน 1 ครั้ง
  • หาก ชนาธิป ได้ดาวซัลโว จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ และจะเป็นคนไทยคนที่ 5 ที่ได้ตำแหน่งนี้ ต่อจาก เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์, วรวุธ ศรีมะฆะ, ธีรศิลป์ และ อดิศักดิ์ ไกรษร
  • ถ้า ชนาธิป ได้ทั้งดาวซัลโว และ MVP เขาจะเป็นคนที่ 2 ที่รวบ 2 รางวัล ต่อจาก นอห์อลัมชาห์ ปี 2007
  • สุภโชค สารชาติ ยิง 3 ประตู ก็มีลุ้นดาวซัลโวเช่นกัน
  • ไทยยิงไปแล้ว 16 ประตู เสียแค่ 1 ประตู
  • มีโอกาสที่จะเป็นแชมป์ที่เสียประตูน้อยสุดใน 1 ทัวร์นาเมนต์ โดยที่ผ่านมา ตัวเลขน้อยสุดที่เสียประตูใน 1 ทัวร์นาเมนต์ คือ 3 ประตู แต่หากนับตั้งแต่ปี 2004 ที่รอบรองฯ, รอบชิงฯ แข่ง 2 นัด ตัวเลขน้อยสุดคือ 4 ประตู(ไทย ปี 2016, เวียดนาม ปี 2018)