“ช้างศึกพลังหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย มีโปรแกรมแน่นตลอดปี 2022 รวมแล้วถึง 4 รายการ โดยเริ่มจากฟุตบอล 23 ปี ชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 14-26 ก.พ. ซึ่งไทย ร่วมกลุ่มกับ เวียดนาม และ สิงคโปร์ จากนั้นมีศึกซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม ช่วงเดือน พ.ค., ศึกฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่ประเทศอุซเบกิสถาน วันที่ 1-19 มิ.ย. และเอเชี่ยนเกมส์ ที่ประเทศจีน วันที่ 7-25 ก.ย.

สำหรับศึกแรก การแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน ผู้สื่อข่าวสอบถาม ในเรื่องการเตรียมทีม จาก “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าโค้ช ซึ่งโค้ชโย่ง กล่าวว่า สำหรับทีมชาติไทยนั้น ตอนนี้รอให้ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม เข้าหารือกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จึงจะได้ความชัดเจนว่าจะสามารถใช้ผู้เล่นชุดไหนไปแข่งขัน แล้วจึงมาไล่ดูนักเตะกัน สัปดาห์หน้าน่าจะได้ข้อสรุป ส่วนคู่แข่งในกลุ่ม อย่างเวียดนาม ก็ได้ข่าวว่าเริ่มเตรียมทีมกันแล้ว

เมื่อถามว่า ชุดชิงแชมป์อาเซียน น่าจะเป็นชุดเดียวกับที่ไปแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่มองโกเลีย หรือไม่ โค้ชโย่ง กล่าวว่า คงจะยากที่ต้นสังกัดจะปล่อยผู้เล่นชุดดังกล่าว เพราะเป็นช่วงเวลาที่ฟุตบอลภายในประเทศกำลังแข่งขัน ซึ่งก็ต้องเข้าใจต้นสังกัด ไหนจะเพิ่งขอตัวนักเตะไปศึกซูซูกิ คัพ มาเมื่อไม่นานมานี้

“คงไม่ได้ชุดเต็ม เราก็เข้าใจสโมสร หรือแม้แต่ชุดที่ไปมองโกเลีย ก็คงยาก อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอคุณแป้ง ไปหารือกับสมาคมฯ เสียก่อน ซึ่งสมาคมฯ ก็จะไปคุยกับสโมสร ถึงจะได้ความชัดเจนว่าจะใช้ชุดไหนไปแข่ง”

เมื่อถามถึงการลุย 4 รายการใหญ่ ตลอดปี ทั้งในระดับอาเซียน และ เอเชีย โค้ชโย่ง กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ตัวผู้เล่น ว่าจะมาแบบครบหรือไม่ รุ่น 23 ปีนี้ ถ้าทีมไทยมาแบบครบๆ ก็ไม่ต้องกลัวใครในอาเซียน หรือแม้แต่ในระดับเอเชีย ก็สู้ได้ แต่ถ้าตัวไม่ครบก็อาจจะลำบาก เพราะตัว 23 ปี ถ้าไม่ใช่ชุดหลัก เวลาอยู่สโมสร มักไม่ค่อยมีโอกาสลงสนาม ไม่มีเกมเล่น ขาดแมตช์ฟิต เวลามาซ้อมก็จะเกิดปัญหา

“ถ้ามาเต็มๆ เราไม่กลัวใคร แต่ก็ต้องหาจุดลงตัวกับสโมรต้นสังกัด เรื่องนี้ก็ต้องรอทางผู้จัดการทีมหารือกับสมาคมฯ เสียก่อน” โค้ชโย่ง กล่าว