เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามความเห็นกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารริมทาง หรือ ร้านอาหารขนาดเล็ก ถึงผลกระทบจากสถานการณ์ เนื้อหมูราคาแพง เนื้อหมูขาดตลาดในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การปรับราคาอาหารให้สูงขึ้นตามราคากลไกตลาดเนื้อหมู เพื่อลดการแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่ทางออกของปัญหา เนื่องจากส่งผลกระทบต่อยอดขายและปริมาณลูกค้าที่ลดลง วอนหน่วยงานภาครัฐเร่งแก้ไข

หมูแพงไม่แผ่ว สามชั้นพุ่ง 260 ร้านตามสั่ง หยุดขายเมนู “หมูกรอบ”

น.ส.จิราภรณ์ วงคง อายุ 20 ปี เจ้าของร้านข้าวขาหมู กล่าวว่า กระทบโดยตรง เพราะเป็นวัตถุดิบหลัก จนต้องปรับขึ้นราคาอาหาร และแน่นอนว่าผลกระทบที่ตามมาคือลูกค้าลดลง ซึ่งก็เข้าใจการที่ผู้คนจะเลือกประหยัดจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ตนในฐานะผู้ค้าก็อยากให้หน่วยงานต่างๆ​ ของรัฐรีบแก้ไข

นางอารีวรรย์ พันเหลา อายุ 65 ปี แม่ค้าหมูปิ้งรถเข็น กล่าวว่า ขายมานานกว่า 20 ปี ยอมรับว่าครั้งนี้กระทบมากที่สุด สิ่งเดียวที่พอทำได้คือปรับราคาขึ้น และส่งผลกระทบต่อปริมาณลูกค้าที่ลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ สุดท้ายการแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นก็ต้องตกอยู่ที่ผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือรายย่อย ทุกวันนี้ทำได้แค่วิงวอนขอให้แก้ปัญหาควบคุมราคาให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ที่ตลาดสดห้วยขวาง ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาเนื้อหมู พบว่าขยับราคาขึ้นจากเดิมหมูเนื้อแดง เดิม กก.ละ 165 ขึ้นเป็น กก.ละ 200 บาท, หมูเนื้อแดงปนมัน ราคา กก.ละ 180 บาท, หมูสามชั้น กก.ละ 200 บาทเป็นต้น ทำให้บรรดาเขียงหมูเงียบเหงา เพราะผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่หันมาซื้อหมูหมัก ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำหมูกะทะที่ขายอยู่​ กก.ละ 150 บาท

น.ส.จุฑามาศ มีสมญาณ อายุ 29 ปี เจ้าของร้านเจ๊นิด ซาบู หมูกระทะ กล่าวว่า ในฐานะผู้ค้าก็ไม่อยากปรับราคาขึ้นมาก ส่วนหนึ่งก็เห็นใจผู้บริโภค ซึ่งตนมีทั้งแผงขายเนื้อหมูสดและแผงขายหมูหมัก ซึ่งเป็นวัตถุดิบทำหมูกระทะส่วนตัว ยอมรับว่าอยากจะขึ้นราคาก็ขึ้นไม่ได้ กลัวลูกค้าจะหาย คงได้แต่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน กำไรก็อาจจะน้อยหน่อย

น.ส.กิ่งกาญจน์ โพธิ์มณี อายุ 33 ปี พนักงานร้านเวลมาร์ท ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายหมูราคาส่งขนาดใหญ่ เปิดเผยว่า ร้านติดป้ายราคาจำหน่ายหมูชัดเจน ซึ่งเห็นได้ว่าราคาถูกกว่าแผงในตลาด เช่น เนื้อแดงกิโลกรัมละ 164 บาท, เนื้อสะโพกกิโลกรัมละ 165 บาท,​ หมูบดกิโลกรัมละ 158 บาท,​ หมูสามชั้นกิโลกรัมละ 205 บาท,​ สันนอกกิโลกรัมละ 172 บาท ทั้งนี้ยอมรับว่าจากราคาที่ถูกกว่าส่งผลให้มีพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้หมูในการทำวัตถุดิบมาซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางบริษัทพยุงราคานี้เพื่อให้ผู้บริโภคจับต้องได้ รวมถึงพ่อค้าแม่ค้าไม่แบกต้นทุนที่สูง ทั้งนี้เป็นที่สังเกตว่าหลังจากที่ราคาหมูปรับขึ้น มีลูกค้ามาซื้อค่อนข้างมาก