เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิดว่าทั่วโลกมียอดสะสมผู้ติดเชื้อมีจำนวน 300,800,312 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่ 2,497,154 ราย ขณะที่ไทยอยู่อันดับที่ 25 ติดเชื้อสะสมจำนวน 2,252,776 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่นั้น มีหลายประเทศที่มีตัวเลขหลักแสน ทั้งสหรัฐฯ มี 751,512 ราย อินเดีย 114,484 ราย สหราชอาณาจักร 179,756 ราย ฝรั่งเศส 261,481 ราย อิตาลี 219,441 ราย อาร์เจนตินา 109,608 ราย ซึ่งสถานการณ์โลกสะท้อนภาพสถานการณ์ของประเทศไทยด้วยเช่นกัน

โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่าสำหรับการระบาดในประเทศไทยพบผู้ป่วยรายใหม่ 7,526 ราย, รักษาหายเพิ่ม 2,895 ราย, รักษาตัวอยู่ 42,580 รายในจำนวนนี้ อาการหนัก 547 ราย ซึ่งมีผู้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 140 ราย, ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 19 ราย มียอดสะสมของผู้เสียชีวิต 21,799 ราย, ยอดสะสมผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดมีจำนวน 105,419,287 โด๊ส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากข้อมูลการคาดการณ์สถานการณ์การระบาดในประเทศไตรมาสที่ 1 ปี 2565 พบว่าถ้ายังปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติของการติดเชื้อจะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ไปถึงตัวเลขหลักหมื่นรายได้ในช่วงปลายเดือน ม.ค.หรืออาจถึงจำนวน 30,000 รายในเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นข้อห่วงใยของนายกรัฐมนตรีที่ใช้เวลาหารือในที่ประชุม ศบค.มากพอสมควร เพื่อต้องรับมือสถานการณ์ดังกล่าวให้ได้อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ไม่ได้มีความรุนแรงเท่าเชื้อสายพันธุ์เดลตา ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้จัดให้สถานการณ์การระบาดในขณะนี้เป็นระลอกที่ 4 จึงยกระดับการเตือนภัย จากระดับ 3 สู่ระดับ 4

โฆษก ศบค. กล่าวอีกว่า สำหรับจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวนมาก 10 อันดับแรก ได้แก่ 1.ชลบุรี 1,342 ราย 2.สมุทรปราการ 561 ราย 3.กรุงเทพฯ 456 ราย 4.อุบลราชธานี 431 ราย 5.ขอนแก่น 305 ราย 6.เชียงใหม่ 292 ราย 7.นนทบุรี 282 ราย 8.ภูเก็ต 256 ราย 9.นครศรีธรรมราช 214 ราย 10.ระยอง 191 ราย.