เมื่อวันที่ 8 ม.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยี่ห้อไฟเซอร์แก่เด็กอายุ 5-11 ปี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขคาดว่าจะเริ่มฉีดได้ในช่วงเดือน ก.พ.นี้ ทั้งนี้การฉีดจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง โดยขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างการสำรวจความสมัครใจ โดยสถานที่ฉีดนั้นจะใช้โรงเรียนเป็นจุดฉีดหลัก ร่วมกับจุดฉีดที่โรงพยาบาล สำหรับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน สามารถเข้ารับการฉีดแบบวอล์กอิน ได้ตามสถานพยาบาลที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและกรุงเทพมหานครกำหนดไว้

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ตามแผนการฉีดวัคซีนเดิมของปี 2564 รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่การฉีดวัคซีนครอบคลุม 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรไทย 70 ล้านคน คิดเป็นจำนวน 50 ล้านคน ใช้วัคซีน 100 ล้านโด๊ส ซึ่งผลการดำเนินการจริง นับถึงวันที่ 31 ธ.ค.2564 สามารถฉีดวัคซีนแล้วทั้งหมด 104.4 ล้านโด๊ส และสามารถจัดหาวัคซีนรวม 130.6 ล้านโด๊ส ส่วนในปี 2565 มีความพร้อมในการจัดหาวัคซีนจำนวน 120 ล้านโด๊ส เพื่อฉีดเป็นเข็มกระตุ้นให้แก่ประชาชน รวมถึงฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมคือ เด็กอายุ 5-11 ปี ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งประสานเครือข่ายโรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ให้เตรียมความพร้อมทั้งเตียง ยา และวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ รองรับผู้ป่วยกลุ่มเด็กให้มากที่สุดหากเกิดกรณีมีการติดเชื้อจำนวนมาก.