เปิดศักราชใหม่มาพร้อมด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” ที่ทำให้ประเทศไทย ต้องเข้าสู่ภาวะความหวาดวิตกอีกครั้ง หลังเริ่มมีมาตรการเปิดประเทศเมื่อปลายปี 2564  โดยตัวเลขผู้ป่วยโควิดเริ่มพุ่งขึ้นสูงในหลายจังหวัด จนยอดรวมแตะ 8,000 กว่ารายต่อวัน ในช่วงสัปดาห์หลังวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2565 ที่ผ่านมา และหากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เชื่อว่าตัวเลขผู้ป่วยจะแตะหลักหมื่นในอีกไม่กี่วัน

มาที่ฟากฝั่งการเมืองโอมิครอนก็ทำให้ทั้งทำเนียบรัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรต้องหยุดกิจกรรมต่าง ๆ ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเช่นเดียวกับหน่วยงานรัฐอื่น ๆ โดยในส่วนของรัฐสภา นอกจากให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ทำงานที่บ้านยกเว้นภารกิจสำคัญแล้ว “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา ยังมีคำสั่งให้งดการประชุมสภาฯ ตั้งแต่หลังปีใหม่เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยจะนัดประชุมนัดแรกของปี 2565 ในวันที่ 19-20 ม.ค. และนัดประชุมครั้งพิเศษวันที่ 21 ม.ค. 

ผลของการสั่งงดประชุมสภา 2 สัปดาห์ติดกัน โดยอ้างสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด เป็นเรื่องขึ้นมาเมื่อ ส.ส.พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงความไม่พอใจ เริ่มตั้งแต่ “ณัฐชา บุญไชยอินทร์สวัสดิ์” ส.ส. กทม. และ โฆษกพรรคก้าวไกล ที่ออกมาระบุว่ายิ่งมีวิกฤติสภายิ่งต้องเปิดประชุมเพื่อหาทางออกให้กับประชาชน ทั้งในเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ที่สำคัญคือปัญหาหมูราคาแพง และการปกปิดการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในหมูที่ฝ่ายค้านต้องการขอคำตอบจากรัฐบาล

ที่จี๊ดกว่านั้นคือ “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ที่ออกมาตั้งคำถามไปยัง “ประธานชวน” ในเรื่องการสั่งงดประชุมต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ใจความว่า ท่านจะอ้างสถานการณ์โรคระบาดก็ไม่เป็นไร แต่ตนลงมาพื้นที่ภาคใต้ก็เห็นการระดมคนมาฟังปราศรัยของพรรคท่านแบบแน่นขนัด ก็ไม่เห็นพวกท่านจะกลัวการระบาดของโรคแต่ประการใด การตัดสินใจสั่งงดประชุมสภาฯ เป็นเพราะรู้ดีว่าขณะนี้ความนิยมของพรรคท่านในพื้นที่ภาคใต้ไม่เหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลก็จ้องจะกินพื้นที่ ผู้สมัครพรรคก้าวไกลเองก็กำลังเป็นกระแสได้รับความนิยมอย่างมากเลยกลัวแพ้คาบ้าน เลยจำเป็นต้องทุ่มเต็มกำลัง ใช้คำสั่งงดประชุมสภาฯ เปิดทางให้ ส.ส.กลับมาลงพื้นที่หาเสียงหรือไม่

จน “ดร.บิล”อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทของ “ประธานชวน” ต้องออกโรงฉะกลับ “ส.ส.โรม” ว่าการสั่งงดประชุมสภาฯ ได้หารือทุกฝ่ายรวมทั้งผู้นำฝ่ายค้านแล้ว อย่าเอาเรื่องไม่จริง มาเล่นการเมืองโดยใช้วาทกรรมโจมตีอีกฝ่าย

ถ้ามองให้ลึกเรื่องนี้อาจเกี่ยวพันกับสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ที่เวลานี้แกนนำ 3 พรรคการเมืองใหญ่ ทั้ง พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และ ก้าวไกล กำลังห้ำหั่นลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างดุเดือดในสมรภูมิเลือกตั้งซ่อม สงขลา และ ชุมพร เลยมีชอตวิจารณ์ตีกินทางการเมือง ส่วนใครจะคว้าชัยสำเร็จ 16 ม.ค. เป็นอันได้รู้กัน ก่อนจะเปิดศึกน้ำลายท่วมสภายาวไปในปี 2565 นี้.