ในช่วงนี้เราเริ่มเห็นสัญญาณการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ จากราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งราคาพลังงานและอาหารสด โดยเฉพาะราคาเนื้อสุกรที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี จนอาจจะเป็นช่องว่างให้มีการโก่งราคาในโลกออนไลน์นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดเมื่้อวันที่ 9 ม.ค. แม่ค้ารายหนึ่ง ได้ออกมาเปิดใจผ่านกลุ่มเฟซบุ๊ก@รวมพ่อค้า-แม่ค้าขายหมู โดยเธอระบุว่า “เผอิญได้ยินคนอ่านข่าวทีวีใช้คำพูดว่า พ่อค้าแม่ค้าอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาหมูนะ…พวกคุณรู้ไหมเขียงหมูจะตายแล้ว” แต่ละวันขาดทุนกับหมูมีชีวิตที่ได้มาไม่สมราคา ไหนลูกค้าหายเพราะซื้อกินไม่ไหว ร้านอาหารก็ใช้หมูน้อยลงหรือไม่ก็เปลี่ยนใช้วัตถุดิบอย่างอื่น

เราสั่งหมูมีชีวิตจากฟาร์มเจ้าสัว เพราะฟาร์มชาวบ้านโดนกวาดหมูไปทิ้งเกลี้ยงแล้ว เราสั่งแบบไม่ได้เห็นตัวหมูเลย ตาชั่งเราก็ไม่เห็น บาทเดียวก็ไม่ลดให้เรา..แตกต่างจากฟาร์มชาวบ้านเราชี้ตัวเลยว่าอยากได้ตัวไหนชั่งกันเห็นๆ เศษๆไปร้อยสองร้อยก็ลดให้กัน..

ต่างกันไหมล่ะ เราโทรสั่งขอไม่เกิน100โลนะบวกลบไม่เกิน10 หมูราคาแพงเราขายได้น้อยลง ..ส่งหมูมาให้เราเกือบ 130โล หมูมีแต่มันไปเกือบครึ่งตัว..หมู130โล ได้ส่วนเนื้อแค่ 30 โล ..ฟาร์มชาวบ้านยังมีคุณภาพกว่า..แหกตาตื่นแต่2เพื่อหาเงินส่งให้เจ้าสัวแถมควักเงินเก็บในกระเป๋าเเพิ่มให้อีก..รวยตายไปเลย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ต่างระบุถึงความยากลำบากในการค้าขายในช่วงนี้ ทั้งปัญหาการหาเนื้อหมูยากขึ้น รวมไปถึงถูกต่อว่าจากลูกค้า ว่ามีการโก่งราคาอีกด้วย..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @Waewdao Kaewsawang,@รวมพ่อค้า-แม่ค้าขายหมู