จากกรณี 5 นายพรานใจโหด ตั้งแคมป์นำวัวมาเป็นเหยื่อล่อ แล้วใช้อาวุธปืนซุ่มยิงเสือโคร่ง 2 ตัวเพศผู้และเพศเมีย เสียชีวิต แล้วนำมาแล่เนื้อถลกเอาหนังย่างตากแห้ง จนท.พนักพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ นำกำลังเข้าจับกุม แต่กลุ่มนายพรานวิ่งหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด เหตุเกิดที่บริเวณป่าห้วยปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในเขตรอยต่ออุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ติดต่ออุทยานฯ​ เขาแหลม และป่าสงวนแห่งชาติเขาช้างเผือก นั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ นำโดย พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ วิเศษสิงห์ รอง ผกก.ป.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ต.ภาวัช ธรรมวิเศษ สว.สส.สภ.ทองผาภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ทองผาภูมิ และชุดปฏิบัติการทางน้ำอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้นำรถตู้เดินทางไปรับตัวผู้ต้องหา 4 คน ที่บริเวณจุดตรวจเชิงเขาบ้านไร่ ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ประกอบด้วย 1. นายกูกือ ยินดี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย​ (บุคคลบนพื้นที่สูง บัตรสีชมพู) อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/พ หมู่ 4 ต.ปิลอก อ.ทองผาภูมิ 2.นายจอแห่ง พนารักษ์ อายุ 38 ปี ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย​ (บุคคลบนพื้นที่สูง บัตรสีชมพู) อยู่บ้านเลขที่ 39/พ หมู่ 4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 3.นายศุภชัย เจริญทรัพย์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/พ หมู่ 4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี และ 4.นายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ อายุ 30 ปี เป็นน้องชายของนายศุภชัย เจริญทรัพย์

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพว่า พวกตนมีอาชีพเลี้ยงวัว 2 เดือนที่ผ่านมา วัวของชาวบ้านและพวกตนถูกเสือโคร่งมากินและกัดตายไปร่วม 20 ตัว จึงร่วมกันวางแผนยิงเสือโคร่ง โดยมีนายจอแห่ง พนารักษ์ เป็นผู้ลงมือยิงเสือตัวแรก ด้วยอาวุธปืนยาวลูกกรดติดกล้อง ส่วนนายศุภชัย เจริญทรัพย์ เป็นผู้ลงมือยิงเสือตัวที่ 2 ด้วยอาวุธปืนแก๊ปยาว ส่วนนายกูกือ ยินดี เป็นคนไปยืมปืนลูกซองยาว​ อปพร.มา ส่วนนายรัชชานนท์ เจริญทรัพย์ ไปร่วมด้วย และผู้ต้องหาอีกคนซึ่งยังไม่มามอบตัว ทราบว่าเป็นหัวหน้าชุดล่าเสือ เป็นชายสูงอายุและเป็นเจ้าของวัว มีความชำนาญในการล่าสัตว์ป่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้ว เชื่อว่าจะได้ตัวในเร็ววันนี้

ด้านนายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3​ ​(บ้านโป่ง) เปิดเผยว่า เรื่องยิงเสือโคร่งนี้ สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ดูแล้วเหมือนรุมยิงกัน สำหรับการดำเนินการนั้นทางคดีก็เป็นไปตามกฎหมาย ในความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนทางด้านกรมอุทยานฯ ตีราคาเสือ 2 ตัว ตัวละ 6 แสน รวมเป็นเงิน 1,200,000 บาท

สำหรับข้อกล่าวหาได้แจ้งรวม 4 ข้อประกอบด้วย ร่วมกันกระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14(2) และมาตรา 31(6) ในข้อหา ฐานร่วมกันเก็บหาของป่า อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต และตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 มาตรา 19(3) มาตรา 43 ฐานร่วมกันล่อ หรือนำสัตว์ป่าออกไป หรือกระทำให้เกิดอันตรายแก่สัตว์ป่าด้วยประการใด ฐานร่วมกันเข้าไปดำเนินการกิจการใดๆ เพื่อหาประโยชน์ ตามมาตรา 19(6) และมาตรา 44 ฐาน ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ หรือจับสัตว์ หรือ อาวุธใดๆ​ เข้าไป ตามมาตรา 19(7) และมาตรา 45 ฐานยิงปืน หรือทำให้เกิดระเบิด หรือจุดดอกไม้เพลิง ตามมาตรา 19(8) และมาตรา 44 ฐานทิ้งสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงซึ่งอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ ตามมาตรา 19(9) และมาตรา 44 และตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าตามมาตรา 17 และมาตรา 92

ส่วนนายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านที่นำตัวผู้ต้องหามามอบตัวต่อตำรวจ เผยว่า หลังทราบเรื่อได้เข้าพูดคุยกับทุกคนให้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ โทษหนักจะได้เบา ซึ่งทุกคนก็ทำตาม จึงติดต่อนัดหมายเจ้าหน้าที่แล้วนำตัวทั้ง 4 เดินทางมามอบตัวที่ สภ.ทองผาภูมิ อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น. รอง​ ผบ.ตร. จะเดินทางมายัง สภ.ทองผาภูมิ เพื่อแถลงข่าวในเรื่องนี้ต่อไป.