สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ว่า นางเอตเลวา คาดิลลี รองผู้อำนวยการฝ่ายจัดสรรทรัพยากรของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ( ยูนิเซฟ ) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เกี่ยวกับความคืบหน้าของการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ผ่านโครงการโคแวกซ์ ที่มีองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) เป็นหัวเรือใหญ่ ว่าเฉพาะเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา มีการปฏิเสธรับวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโด๊ส


ทั้งนี้ สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในกลุ่มประเทศแอฟริกามากที่สุด โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบให้เหตุผลไปในทางเดียวกัน ว่าเป็นเพราะวัคซีนที่ได้รับมานั้น ใกล้หมดอายุแล้ว ขณะเดียวกัน การส่งและรับมอบวัคซีนของกลุ่มประเทศยากจนส่วนใหญ่ต้องล่าช้ากว่าปกติ เนื่องจากยังคงมีอุปสรรคสำคัญ คือการจัดเก็บวัคซีน และประชาชนในหลายประเทศยังมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนไม่เพียงพอ ความลังเลต่อการรับวัคซีนจึงยิ่งเพิ่มความตึงตัวให้กับระบบสาธารณสุข


อย่างไรก็ตาม ยูนิเซฟยังไม่ได้ให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ ว่ามีการปฏิเสธรับวัคซีนไปแล้วเป็นจำนวนเท่าใด นับตั้งแต่เริ่มโครงการโคแวกซ์ เมื่อเดือน ก.พ. 2564

ขณะที่รายงานจากองค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีน ( กาวี ) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการส่งมอบวัคซีนไปยังประเทศยากจน ระบุว่า มีการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว 987 ล้านโด๊ส ให้แก่ 144 ประเทศ แต่ให้ข้อมูลด้วยว่า มีหลายประเทศซึ่งสมัครใจซื้อวัคซีนโดยตรงกับผู้ผลิต.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES