เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรักษาโรคโควิด-19 ว่า กรมการแพทย์ได้สั่งยาโมลนูพิราเวียร์ และแพกซ์โลวิด สำรอง เพื่อให้มั่นใจจะมียาที่เหมาะสมกับผู้ป่วย ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ ทางองค์การเภสัชกรรม (อภ.)ได้เตรียมสารตั้งต้นไว้ผลิตเอง นอกจากนั้น ยังมีแผนที่ร่วมกับสถาบันการแพทย์จุฬาภรณ์พัฒนาสารตั้งต้นยาโมลนูพิราเวียร์ เพื่อสำรองยาในเหตุการณ์อนาคต

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับการพิจารณาปรับนิยามและระยะเวลาในการกักตัวของกลุ่มเสี่ยงสูง เรื่องนี้มีการประชุมกันไปแล้ว เบื้องต้นคือกรณีกลุ่มเสี่ยงสูงให้มีการกักตัวอยู่ที่พัก 7 วัน (จากเดิมกักตัว 14 วัน) ตรวจ ATK ในวันที่ 5, 6 ของวันกักตัว หากผลเป็นลบสามารถออกมาใช้ชีวิตได้ แต่ต้องสวมหน้ากากพยายามไม่พบปะผู้คนมากเป็นระยะเวลา 3 วัน เมื่อครบ 10 วันตรวจ ATK อีกครั้ง หากผลเป็นลบถือว่าพ้นมาตรการกักตัว แต่ใช้ชีวิตโดยมีมาตรการป้องกันตัวสูงสุด จากนี้กรมควบคุมโรคจะจัดทำขั้นตอน และออกเป็นมาตรการอีกครั้งหนึ่ง.