เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ดร.เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ในฐานะโฆษกสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบหมายให้ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการ (ศบค.ศธ.) เข้าร่วมการประชุมและรายงานข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในสถานศึกษา และรูปแบบการจัดการเรียนการสอนของสถานศึกษาที่เปิดเรียน ร่วมกับนายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย โดยนำเสนอยัง ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ว่าควรให้สถานศึกษาเปิดเรียนแบบ On-Site แต่ต้องดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในสถานศึกษาและปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ พร้อมทั้งเลือกรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ของตนเอง

รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการการเปิดเรียนปลอดภัย และ PH-EOC มีมติเห็นควรให้เปิดการเรียนการสอนแบบ On-site โดยสถานศึกษาต้องผ่านการประเมิน TSC+ พร้อมทั้งปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย 6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และ 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด โดยสถานศึกษาสามารถเลือกรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมกับบริบทตามการแพร่ระบาดในพื้นที่ และให้สามารถเปิด on-site ได้มากที่สุด ควบคู่ไปกับการเน้นย้ำและกำชับ ให้ผู้บริหารตรวจเยี่ยมสถานศึกษาในกำกับ ให้ปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 รวมถึงแผนเผชิญเหตุ ให้สามารถดำเนินการได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที รวมทั้งยังร่วมกันประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนเพื่อให้ลดการแพร่เชื้อและเสี่ยงต่ออันตรายที่จะเกิดกับร่างกาย เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองและชุมชน
.
“นอกจากนี้ ยังมีการรายงานด้วยว่า ศธ. ได้ร่วมมือกับ สธ. ในการเตรียมการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปี ซึ่ง ศธ. ได้สำรวจพบว่า ผู้ปกครองให้ความยินยอมให้เด็กเข้ารับการฉีดวัคซีน ถึงร้อยละ 71 โดย ศธ. ได้ผลิตสื่อทำความเข้าใจเรื่องวัคซีนต่อผู้ปกครองและนักเรียนแล้ว ทั้งนี้ เด็กและผู้ปกครองในกลุ่มเสี่ยงควรได้รับวัคซีน และต้องเคร่งครัดมาตรการเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ โดยทาง ศธ และ สธ จะเพิ่มการสื่อสารสร้างความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้ทุกคนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง รวมทั้งประสานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด ตามที่ได้นำเสนอต่อ ศปก.ศบค. และเข้า ศบค. ต่อไปเพื่อการปฏิบัติไปในทางทิศเดียวกัน และนักเรียนสามารถเข้าถึงการเรียน on-site ได้ทุกที่อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันกระทรวงศึกษาธิการ ก็ร่วมกับกรมอนามัย กำกับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยในสถานศึกษาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน” ดร.เกศทิพย์ กล่าว