เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่หน้า รพ.สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์  นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัด กทม. ลงพื้นที่ตรวจสอบกายภาพถนนบริเวณทางข้ามม้าลาย  จุดเกิดเหตุรถบิ๊กไบค์ชนหมอ พร้อมระบุ ปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุมีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ พฤติกรรมผู้ขับขี่ สภาพรถ และกายภาพถนน ซึ่งจุดดังกล่าวเท่าที่สังเกตมีสัญญาณป้ายจราจรชัดเจน เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็น และทางม้าลายสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้ขีดสี ตีเส้นใหม่เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา สภาพทางม้าลายขณะนี้ยังชัดเจนสมบูรณ์อยู่

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. ได้สั่งการให้สำนักงานเขตทุกแห่งสำรวจกายภาพถนน ไฟฟ้าส่องสว่างในพื้นที่ว่ามีจุดใดชำรุดหรือไม่ เพื่อแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันมอบหมายให้ สจส.สำรวจพื้นที่ถนนต่างๆว่ามีความพร้อมด้านกายภาพ วิศวกรรมจราจรหรือไม่ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ โดยให้สำรวจและแก้ไขจุดบกพร่องให้แล้วเสร็จภายในเดือนม.ค.นี้  สำหรับพื้นที่เกิดเหตุดังกล่าวอาจจะต้องติดตั้งป้ายสัญญาณจราจรเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ขับขี่รถมองเห็นมากขึ้น

ด้านนายประพาส เหลืองศิรินภา ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) กทม.กล่าวว่า หลังเกิดอุบัติเหตุ สจส.ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกายภาพถนน เพื่อตรวจสอบว่ามีข้อบกพร่อง หรือมีจุดที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม โดยก่อนหน้านี้ สจส.มีการปรับปรุงทางม้าลายที่เกิดเหตุมาแล้วครั้งหนึ่ง ปัจจุบันสัญลักษณ์ทางม้าลายบนพื้นถนนยังมีความชัดเจนอยู่ อีกทั้งมีป้ายสัญญาณเตือนทางข้ามม้าลาย

อีกทั้งที่ผ่านมา กทม. ได้ปรับปรุงกายภาพด้านวิศวกรรมจราจร โดยเฉพาะจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทางโค้ง ทางแยก ทางข้ามต่างๆ และพื้นที่อ่อนไหว เช่น หน้าโรงพยาบาล โรงเรียน ในส่วนของพื้นที่เกิดเหตุ สจส.จะทำเครื่องหมายชะลอความเร็ว หรือเส้นชะลอความเร็ว เพิ่มเติม 2 ชุด ระยะห่างกัน 20 เมตร เพื่อเป็นสัญลักษณ์เตือนให้รถชะลอความเร็ว และจะทาพื้นสีแดงเพื่อให้มองเห็นชัดเจนมากขึ้น ซึ่งการทาพื้นที่สีแดง กทม.ดำเนินการแล้วหลายจุดในพื้นที่อ่อนไหวต่างๆ.