สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวากาดูกู ประเทศบูร์กินาฟาโซ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ว่า กองทัพบูร์กินาฟาโซประกาศการรัฐประหารโดยไม่เสียเลือดเนื้อ ยึดอำนาจบริหารจากประธานาธิบดีร็อช กาบอเร เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นับจากนี้ คณะรัฐประหารภายใต้การนำของ พ.ท.พอล-อ็องรี ซันเดาโก นามิบา ในชื่อ “แนวร่วมเคลื่อนไหวรักชาติเพื่อการพิทักษ์และฟื้นฟู” ซึ่งย่อเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “เอ็มพีเอสอาร์” คือผู้มีอำนาจสูงสุด

ประธานาธิบดีร็อช กาบอเร


ทั้งนี้ เอ็มพีเอาอาร์ยืนยัน การจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่เพื่อคืนอำนาจให้แก่พลเรือน “ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม” ด้านสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ร่วมกันประณามความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งล่าสุดในบูร์กินาฟาโซ และเรียกร้องให้คณะรัฐประหารปล่อยตัวกาบอเร วัย ปี ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ว่าถูกควบคุมตัวอยู่ที่ใด


สำหรับการรัฐประหารในบูร์กินาฟาโซ เกิดขึ้นหลังสถานการณ์วุ่นวายภายในกรุงวากาดูกู ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเกิดขึ้นประมาณ 18 เดือน หลังการรัฐประหารในมาลีและกินี อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศส เมื่อปี 2503 บูร์กินาฟาโซเผชิญกับการรัฐประหารมาแล้วหลายครั้ง ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ทั้งที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ระดับภูมิภาค.

เครดิตภาพ : REUTERS