เมื่อวันที่ 25 ม.ค. นายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนา (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. กล่าวถึงกรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ และ ร.ต.ต.นิคม พ่อของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดปริวาสราชสงคราม เพื่อตั้งใจจะอุทิศส่วนบุญกุศลให้แก่หมอกระต่าย ที่เสียชีวิต ว่า กรณีดังกล่าว เมื่อพิจารณาตามพระธรรมวินัยแล้ว ต้องถือว่าไม่สามารถเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุได้ ด้วยผู้เข้าอุปสมบทเป็นผู้ต้องคดีอาญาที่ยังไม่สิ้นสุด ซึ่ง พศ.ได้แจ้งให้เจ้าคณะปกครองในพื้นที่เข้าไปทำความเข้าใจกับพระอุปัชฌาย์ ล่าสุดทราบว่า พระครูสถิตบุญวัฒน์ (ชาญ ถิรปุญโญ) เจ้าอาวาสวัดด่าน ในฐานะเจ้าคณะเขตยานนาวา ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ที่บวชให้ แจ้งว่า กรณีที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะการบวชไม่ได้เข้าระบบให้ถูกต้อง จึงได้ทำการพูดคุยหารือกับพระนรวิชญ์ เพื่อขอให้สึก ซึ่งพระนรวิชญ์ยินยอมที่จะสึก เบื้องต้นกำหนดไว้ว่า จะไปร่วมพิธีศพของผู้เสียชีวิตอีก 1 วัน แล้วจึงจะสึก

ด้านพระครูสถิตบุญวัฒน์ กล่าวว่า เจ้าอาวาสวัดปริวาสราชสงคราม โทรศัพท์มาบอกกับตนว่าขอให้ช่วยไปทำพิธีบวชให้กับตำรวจทั้ง 2 นาย โดยใช้คำว่า ขอให้ช่วยสงเคราะห์ ซึ่งตนกับเจ้าอาวาสวัดปริวาสฯ มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันจึงไปบวชให้ โดยไม่ได้ถามเหตุผลหรือรายละเอียด ซึ่งการรับบวชจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าอาวาส โดยตำรวจทั้ง 2 นาย บอกว่าจะบวชเป็นเวลา 3 วัน อย่างไรก็ตามถ้ายึดตามเงื่อนไขตามที่กฎมหาเถรสมาคมระบุไว้ ผู้ที่จะมาบวชได้ต้องตรวจสอบประวัติก่อน เพื่อป้องกันบุคคลที่หนีคดีมาบวช รวมถึงผู้ต้องหาที่ต้องคดี เพราะถือว่าไม่เหมาะสม โดยกรณีของพระนรวิชญ์ไม่มีเอกสารได้รับอนุญาตจากหัวหน้างาน แต่ผู้บังคับบัญชามารับรองในพิธีด้วย จึงทำพิธีบวชให้ แต่เมื่อเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และเจ้าอาวาสวัดปริวาสฯ ได้รับการติดต่อจาก พศ. มาถึงกรณีที่เกิดขึ้น อาจเป็นเพราะการบวชที่น่าจะไม่ได้เข้าระบบถูกต้อง จึงได้พูดคุยกับพระนรวิชญ์แล้ว ว่า พระนรวิชญ์จะขอไปร่วมพิธีศพของผู้เสียชีวิตอีก 1 วัน แล้วจะกลับมาสึกที่วัด.